บลูบิค แนะ 5 แนวทางพาองค์กรฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่การจัดเตรียมแผน การสื่อสารเพื่อลดความตื่นตระหนก การจัดสรรแยกกลุ่มพนักงานเพื่อบริหารความเสี่ยง การปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดหยุ่นในการทำงาน และวางแผนสำรองและหาแหล่งทดแทน
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวและหยุดชะงักมากขึ้น รายได้ของหลายอุตสาหกรรมต้องหดตัวไป โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนจำนวนมากจนไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยหรือเดินทางท่องเที่ยวเช่นเคย อีกทั้งนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังลดลงอย่างต่อเนื่องจากการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคทำให้หลาย ๆ องค์กรเริ่มส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ เช่น การปรับลดจำนวนพนักงาน หรือแม้กระทั่งการปิดกิจการ
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับก่อให้เกิดปรากฏการณ์และเป็นโอกาสให้กับธุรกิจบางประเภทเช่นเดียวกัน อาทิ ธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์ และบริการส่งอาหารพชร
ดังนั้น หากธุรกิจหันมาเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายให้เป็นช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ จะเป็นแต้มต่อและช่วยรักษาโอกาสทางการค้าในช่วงความท้าทายนี้ได้ รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ อีคอมเมิร์ซ ก็ไม่ควรมองข้ามการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย มาปรับใช้เพื่อรับมือกับวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ บลูบิค ได้แนะนำ 5 แนวทางปฏิบัติเร่งด่วน (Quick Win) สำหรับองค์กรปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงักมีความต่อเนื่องทางธุรกิจ ดังต่อไปนี้
1. การวางแผนต่อเนื่องทางธุรกิจและการซักซ้อม
องค์กรควรเริ่มจัดทำหรือทบทวนแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan: BCP) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแผนที่มีอยู่นั้นมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งควรทำการทดสอบแผนดังกล่าวเพื่อให้มั่นใจว่า หากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ขยายวงกว้างหรือเข้าสู่ระยะ 3 ธุรกิจจะดำเนินกิจการอย่างไรเพื่อกระทบกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้น้อยที่สุด
2. การสื่อสารเพื่อลดความตื่นตระหนก
องค์กรควรจัดให้มีการสื่อสารเกี่ยวกับแผนสำรอง Business Continuity Planning (BCP) พร้อมแนวทางการปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งสื่อสารนโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง ให้พนักงานทราบวิธีปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยงที่จะทำให้ได้รับเชื้อโควิด-19 และสื่อสารมาตรการในการดูแลและป้องกันสุขภาพของพนักงานและต้องให้พนักงานปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำผ่านช่องทางที่เข้าถึงง่าย เช่น Line กลุ่ม
3. จัดสรรแยกกลุ่มพนักงานเพื่อบริหารความเสี่ยง
หัวใจที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจ คือ พนักงาน ฉะนั้นจึงควรปิดความเสี่ยง โดยการแบ่งกลุ่มพนักงานในฝ่ายงานสำคัญต่าง ๆ อย่างน้อย 2 กลุ่ม โดยไม่ให้พบปะกันโดยตรง เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อทั้งกลุ่ม แยกกลุ่มพนักงานที่มีความเสี่ยงสูงเช่น พนักงานขาย ออกจากพนักงานที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า และปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานคนละที่ได้ เช่น วิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์
4. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
“เครื่องสแกนลายนิ้วมือ” ถือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค แม้มีการดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอก็ตาม องค์กรควรพิจารณาหันมาใช้ระบบจดจำใบหน้าแบบชีวภาพ (Biometric Facial Recognition) ปรับเปลี่ยนการชำระเงินเป็นแบบไร้เงินสดเพื่อลดการใช้ ธนบัตรหรือเหรียญ ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงในการแพร่กระจายไวรัส ในองค์กรที่มีจำนวนร้านค้าภายในจำนวนมาก อาทิ ศูนย์อาหาร หรือโรงอาหาร
ขณะที่ธุรกิจที่จอดรถที่ต้องแจกบัตรเพื่อเข้าออกลานจอดรถ สามารถนำเทคโนโลยีไอโอที เข้ามาเชื่อมต่อกับระบบที่จอดรถ เช่น การใช้เทคโนโลยี ALPR (Auto license plate recognition) ที่สามารถอ่านป้ายทะเบียนรถที่เข้าออกที่จอดรถและเชื่อมต่อกับไม้กั้นที่เปิดปิดแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้บัตรในการผ่านเข้าออก เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค
5. ประเมินคู่ค้า วางแผนสำรองและหาแหล่งทดแทน
องค์กรในส่วนภาคการผลิตที่ต้องพึ่งพาวัสดุอุปกรณ์จากประเทศจีนเป็นหลัก โดยเฉพาะสินค้าในหมวดคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ อาจประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบหรือต้นทุนในการผลิตได้ ฉะนั้นองค์กรควรจัดทำแผนด้านซัพพลายเชนเพื่อเสาะหาแหล่งผลิตสำรองโดยการหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิตภายในประเทศหรือประเทศอื่น รวมทั้งวางแผนสำรองวัตถุดิบเพื่อการผลิต รวมทั้งต้องพิจารณาแผนในกรณีที่โรงงานในประเทศจีนเริ่มกลับมาทำงานเป็นปรกติไว้ด้วย
- ‘ซันนิ่ง’ ยักษ์ค้าปลีกจีนใช้ ‘รถไร้คนขับ’ ส่งสินค้าถึงบ้าน สู้วิกฤติ ‘โควิค-19’
- ‘ไวรัสโควิด 19’ กระตุ้นอีคอมเมิร์ซ จำนวนแม่ค้าออนไลน์พุ่ง สนองดีมานด์
- ‘เทคโนโลยีดิจิทัล’ ที่ทำให้ชาวจีนใช้ชีวิตได้ ท่ามกลางวิกฤติ ‘โควิด-19’ ระบาด