Politics

แด่นักรบเสื้อกาวน์! ‘สมาคมอุรเวชช์’ ลั่นขอต่อสู้แม้อาวุธไร้ประสิทธิภาพ ไม่ขอก้มหน้าให้กับผู้บริหารที่ขาดความเชี่ยวชาญ!.

“สมาคมอุรเวชช์” ออกแถลงการณ์แพทย์หน้าด่านรับมือโควิด-19 รุนแรง ลั่นขอต่อสู้แม้อาวุธไร้ประสิทธิภาพ ไม่ขอก้มหน้าให้กับผู้บริหาร ที่ไม่เข้าใจและขาดความเชี่ยวชาญ

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “แด่นักรบในเสื้อกาวน์ที่จะต้องรับมือผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 อาการรุนแรง” ตามที่ได้มีคนไทยป่วยจากการติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้ป่วยบางรายที่น่าจะติดเชื้อจากการระบาดภายในประเทศเราเอง ซึ่งหมายถึงการเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ของโรคระยะที่ 3 สมาคมอุรเวชช์ฯได้เล็งเห็นแนวโน้มนี้ และได้มีการเตรียมความพร้อมในเชิงวิชาการตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ซึ่งตลอดสัปดาห์นี้

“สมาคมฯได้พยายามผลักดันการเตรียมความพร้อมในเชิงการบริหารจัดการผ่านทางหน่วยงานต่างๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งแม้จะได้รับการตอบสนองที่ดีในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ดีพอที่จะรับมือกับวิกฤตสุขภาพสำคัญของประเทศอีกครั้ง”

ในสถานการณ์ของโรคระยะที่ 3 นั้นโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนทุกแห่ง จะต้องค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้องรังบางชนิดอยู่เดิมซึ่งเมื่อเริ่มติดเชื้อ COVID-19 แล้วมีโอกาสโรครุนแรงสูง เพื่อรับตัวไว้ในโรงพยาบาลสำหรับการรักษาให้หายขาด ลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด และที่สำคัญคือช่วยตัดวงจรการระบาดต่อไป ซึ่งการที่จะถึงพร้อมในหน้าที่เหล่านี้

“จำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมองค์ความรู้จัดหาการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่รวดเร็วและแพร่หลาย จัดเตรียมยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ และจัดหาอุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์อย่างเพียงพอ”

ในฐานะของสมาคมวิชาชีพแพทย์ ที่ต้องมีส่วนทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยตรง เป็นความรับผิดชอบของสมาคมฯที่จะต้องจัดเตรียมองค์ความรู้ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งจะต้องนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและความพร้อมของแต่ละโรงพยาบาล พร้อมกันนี้จึงเป็นที่มาของการเผยแพร่ “แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอาการรุนแรง” ในส่วนของการส่งผ่านข้อกังวลและข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการต่อหน่วยงานสูงสุดที่รับผิดชอบสมาคมฯได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า “กลไกของรัฐที่จะตอบสนองต่อภาวะวิกฤตของประเทศ มักจะตามหลังสถาณการณ์จริงอย่างน้อยหนึ่งก้าวเสมอ” แต่นั่นไม่ได้ทำให้จิตวิญญาณของพวกเราเหล่าวิชาชีพแพทย์และวิชาชีพอื่นที่เกี่ยวข้อง จะยอมจำนนให้กับศัตรูตัวจิ๋วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าโดยง่าย และพวกเราก็จะไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้รับผิดชอบระดับสูง ที่ขาดความเชี่ยวชาญและเข้าใจบริบทการทำงานของพวกเราอย่างถ่องแท้ “ได้เวลาแล้วที่พวกเราต้องเตรียมทำศึกแม้จะไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพ และแม่ทัพที่เด็ดขาดเข้มแข็ง” สิ่งหนึ่งที่จะช่วยยึดเหนี่ยวอุดมการณ์ของพวกเราไว้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ คือคำสอนของสมเด็จพระบรมราชชนก ผู้ก่อกำเนิดการแพทย์แผนใหม่ในประเทศสยาม

“ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษเป็นกิจหนึ่ง” 

สมาคมอุรเวชช์

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight