Politics

ไทยติดโควิด-19 แตะ75 ราย ติดจากกลุ่ม 11 ไฮโซเพิ่มอีก 2 ราย กลุ่มเที่ยวผับ-น้องชาย 3 ราย

ไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 5 แตะ 75 ราย ติดเพิ่มจากกลุ่ม 11 ไฮไซร่วมปาร์ตี้ อีก 2 ราย ส่วนอีกกลุ่ม เป็นเพื่อนเที่ยวผับกับผู้ป่วยรายที่ 57 และน้องชายติดด้วย รวม 3 ราย รอผลตรวจเพื่อนอีก 8 ราย   

ANN 4044

วันนี้ ( 13 มี.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุข แถลงการณ์สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ล่าสุด โดยนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าไทยพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5 ราย กลุ่มแรก รายที่ 71 กับ 72  เป็นหญิงอายุ 36 ปี และชายอายุ 37 ปี ตามลำดับ  สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มติดเชื้อเดิม 11 คนที่ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ (กลุ่มนี้มีทั้งหมด 15 คน ติดเชื้อจากชาวต่างชาติจากฮ่องกง โดยไปพบปะสังสรรค์ ดื่มและสูบบุหรี่มวนเดียวกัน)

กลุ่มที่ 2 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยยืนยัน รายที่ 57 ซึ่งเป็นหญิงไทยอายุ 27 ปี กลับจากเกาหลีใต้ ปัจจุบันยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี

รายที่ 1 ชายไทยอายุ 19 ปี เป็นน้องชาย สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 57 เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ มีน้ำมูก มีเสมหะ เข้ารับการตรวจที่เอกชนเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 73)

รายที่ 2 เป็นหญิงไทยอายุ 29 ปี เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 57 เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ ไอแห้ง ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563 ให้ประวัติว่า ก่อนป่วย (4 มีนาคม 2563) ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อนชายและเพื่อนอีก 13 คน (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 74)

รายที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 37 ปี เป็นเพื่อนผู้ป่วยยืนยันรายที่ 74 เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรัฐเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 ด้วยอาการเจ็บคอ มีน้ำมูก (นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 75) ให้ประวัติร่วมสังสรรค์ที่สถานบันเทิงกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 74 ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของเพื่อนเที่ยวกลุ่มนี้อีก 8 คน

สรุปมีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 35 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 39 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 75 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ส่วนยอดผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังสะสม ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 12 มีนาคม 2563 ทั้งหมด 5,496 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 226 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 5,270 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว และอยู่ระหว่างติดตามอาการ 3,992 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,504 ราย

13 มี.ค.63

ทั้งนี้ประเทศไทยได้เริ่มพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน มีผู้ป่วยหลายรุ่น (Generation) กระทรวงสาธารณสุข จะแจ้งผู้ประกอบการที่ผู้ป่วยไปรับบริการเพื่อดำเนินการทำความสะอาดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งจะค้นหากลุ่มผู้สัมผัสเพิ่มเติม เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน

ขอเตือนประชาชนว่าหากป่วย มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ให้หยุดพักอยู่ที่บ้าน รีบพบแพทย์ พร้อมให้ประวัติเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เช่น ไปสังสรรค์กับเพื่อนที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค โดยให้แยกสำรับอาหาร แยกแก้วน้ำ ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น ถ้าเราร่วมมือร่วมใจปฏิบัติ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด กักกันตนเองเป็นเวลา 14 วัน เมื่อกลับจากพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง จะช่วยให้ประเทศไทยชะลอการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในประเทศได้

ส่วนการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือ มีห้องปฏิบัติการที่ผ่านการทดสอบความชำนาญทางห้องปฏิบัติการในเครือข่ายรัฐและเอกชน รวม 35 แห่ง โดยเป็นโรงพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชน 20 แห่ง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1 แห่ง และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประเทศ 14 แห่ง

ทางด้านสถานการณ์ทั่วโลกใน 123 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 13 มีนาคม 2563 ณ เวลา 07.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 132,983 ราย เสียชีวิต 4,946 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,796 ราย เสียชีวิต 3,169 ราย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight