Technology

‘เอ็กซ์พีเดีย’ มองไกล แนะใช้ดิจิทัลวางรากฐาน รอท่า ‘ท่องเที่ยวฟื้น’

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไปทั่วโลกของเชื้อไวรัส โควิด-19 ทำให้เกิดการระงับและยกเลิกการเดินทางเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวเหล่านี้คิดเป็น 11 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี

นายนิค แอนดรูส์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารการตลาดของ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีแผนรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เมื่อต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดย เอ็กซ์พีเดีย ได้ให้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับททท. มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุนและทำงานร่วมกับที่พักที่เป็นพาร์ทเนอร์ในประเทศในการวางแผนกลยุทธ์เพื่อความสำเร็จในระยะยาว

people 371230 960 720

“เราไม่ทราบว่าสถานการณ์นี้จะดำเนินไปยาวนานแค่ไหน สิ่งที่เราทำได้คือวิเคราะห์รูปแบบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์วิกฤตในครั้งก่อน ๆ ขยายความหลากหลายทางการตลาด และใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางดิจิทัลในการวางรากฐานเพื่อรองรับการฟื้นตัว” นายแอนดรูส์ กล่าว

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับรูปแบบการเดินทางในช่วงโรคระบาดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น โรคซาร์ส ในปี 2546 พบว่า นักเดินทางเพื่อธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่กลับมาเดินทางอีกครั้งหลังจากที่มีการยกเลิกการระงับการเดินทาง

ในทางกลับกันนักเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนจะตัดสินใจแบบเฉพาะบุคคลมากกว่า โดยระยะเวลาการฟื้นตัวของกลุ่มนี้จะขึ้นอยู่กับมุมมองและความเชื่อมั่นของนักเดินทางแต่ละราย

Nick
นิค แอนดรูส์

นอกจากนี้ยังพบว่า นักท่องเที่ยวจากฮ่องกงและสหรัฐอเมริกาที่เดินทางไปไต้หวันนั้นฟื้นตัวเกือบทันที ในขณะจำนวนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าไต้หวันใช้เวลาถึง 1 ปี กว่าจะกลับไปอยู่ในระดับที่เทียบเท่ากับช่วงก่อนการเกิดโรคระบาด หลังจากที่ไต้หวันประกาศยกเลิกการเฝ้าระวังโรคซาร์สแล้ว

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากโรคซาร์ส ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การพึ่งพาการตลาดจากแหล่งเดียวมากเกินไปเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการชะลอตัวเป็นอย่างมากของการท่องเที่ยวในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นผู้ประกอบการที่พักควรมองหาตลาดอื่นเพื่อพัฒนากลยุทธ์ที่หลากหลายมากขึ้น และชดเชยการลดลงจากการพึ่งตลาดหรือภูมิภาคเพียงแห่งเดียว

สำหรับประเทศไทย ถือว่าเป็นศูนย์รวมนักเดินทางจากหลากหลายทวีป จากข้อมูลเรื่องความต้องการที่เกิดขึ้นจากแบรนด์การท่องเที่ยวในเครือของ เอ็กซ์พีเดีย พบว่านักเดินทางจากสหรัฐอเมริกาคือกลุ่มนักเดินทางขาเข้าที่ใหญ่เป็นอันดับแรก ด้วยการเติบโต 15% ต่อปี ส่วนตลาดอื่น ๆ ที่สร้างรายได้ให้ด้านการท่องเที่ยวแก่ประเทศไทย นอกเหนือจากตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเติบโตขึ้นในอัตราตัวเลขสองหลัก อาทิ เดนมาร์ก, สวีเดน, ฝรั่งเศสและแคนาดา

workplace 3705534 960 720

ดังนั้น ผู้ประกอบการที่พักในประเทศไทยสามารถใช้การวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวไปอ้างอิงประกอบการวางแผนกลยุทธ์การสร้างความหลากหลายทางธุรกิจในระยะยาวได้ นอกจากนี้การทำความเข้าใจเกี่ยวกับฤดูกาลและพฤติกรรมของนักเดินทางเหล่านี้ยังสามารถช่วยให้ที่พักนำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงกับความต้องการของตลาด

ขณะเดียวกัน เพื่อให้เข้ากับแผนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ 4.0 ของประเทศไทย ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศควรใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล เพื่อให้พร้อมนำไปใช้เมื่อเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของตลาด

อย่างไรก็ตามในช่วงที่การเดินทางชะลอตัวลง ผู้ประกอบการที่พักสามารถส่งเสริมและฝึกอบรมพนักงานในหลาย ๆ ด้านที่สำคัญ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การจัดการรายรับ และการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างความแตกต่างและช่วยสร้างให้ที่พักโดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ เมื่อการเดินทางกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง

“ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวพยายามดำเนินการต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์โควิด-19 สิ่งที่ดีที่สุดที่ เอ็กซ์พีเดีย ทำได้คือ ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบทั้งอีโคซีสเต็ม เพื่อกระตุ้นให้มีการเดินทางต่อไปในโลก” นายแอนดรูส์ กล่าว

Avatar photo