สหรัฐประกาศ “ยุคใหม่” สานสัมพันธ์กับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิค เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 ก.ค.) จากการที่ “ไมค์ ปอมเปโอ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐ เปิดแพคเกจมูลค่า 113 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ภาคพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคนี้
แม้ว่าปอมเปโอจะไม่ได้กล่าวถึงจีนโดยตรง แต่บรรดาผู้เชี่วชาญระบุว่า แผนดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อป้องกันผลประโยชน์ของสหรัฐในภูมิภาคอินโดแปซิฟิค ในช่วงเวลาที่จีนกำลังเดินหน้าผลักดันการค้า และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของตัวเอง ภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือเส้นทางสายไหมใหม่
ปอมเปโอ ระบุว่า จะออกเดินทางมายังมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ในวันพุธนี้ (1 ส.ค.) ซึ่งจะมีการหารือถึงแผนการข้างต้น ที่เขาระบุว่าเป็นภารกิจของรัฐบาลล้วนๆ
เป้าหมายสำคัญนโยบายอเมริกัน
ระหว่างการกล่าวภายในงานสัมมนาธุรกิจอินโดแปซิฟิค ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวานนี้ ปอมเปโอระบุว่า อินโดแปซิฟิค ที่เริ่มตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ไปสิ้นสุดที่ชายฝั่งตะวันตกของอินเดียนั้น เป็นเป้าหมายที่สำคัญอย่างมากต่อนโยบายต่างประเทศของอเมริกัน พร้อมเรียกภูมิภาคนี้ว่า เป็นหนึ่งในกลไกที่มีความสำคัญที่สุดต่อเศรษฐกิจของโลกในอนาคต และว่า ชาวอเมริกัน มีส่วนในสันติภาพ และความมั่งคั่งของภูมิภาคนี้
สำหรับเรื่องแพคเกจมูลค่า 113 ล้านดอลลาร์นั้น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า เป็นแค่การเริ่มต้นต่อยุคใหม่ของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่มีต่อสันติภาพ และความมั่งคั่งของภูมิภาคอินโดแปซิฟิคเท่านั้น
เบื้องต้น จะมีการลงทุน 25 ล้านดอลลาร์ ในด้านการพัฒนาการเชื่อมต่อดิจิทัลของประเทศพันธมิตรสหรัฐ เพื่อขยายโอกาสสำหรับการส่งออกเทคโนโลยีสหรัฐ
ปอมเปโอ ระบุว่า ในปีนี้จะมีการใช้จ่ายเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยชาติพันธมิตรบริหารจัดการทรัพยากรด้านพลังงาน โดยจะเป็นการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานราว 30 ล้านดอลลาร์
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ ปอมเปโอยังได้กล่าวเป็นนัยถึงการเคลื่อนไหวของจีนในภูมิภาคนี้หลายครั้งด้วยกัน รวมถึง ถ้อยคำที่ว่า สหรัฐไม่มีวันที่จะหาทางครอบงำอินโดแปซิฟิค และจะคัดค้านทุกประเทศที่ทำเช่นนั้น
เขายังได้อธิบายถึงแนวคิด “อินโดแปซิฟิคที่มีเสรี และเปิดกว้าง” ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศออกมาเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ที่เวียดนาม ว่า คำว่า “เสรี” เป็นการแสดงถึงความต้องการของทุกประเทศ ที่จะสามารถปกป้องอธิปไตยของตัวเอง จากกาารบีบบังคับของประเทศอื่นๆ ส่วน “เปิดกว้าง” หมายความถึง การที่สหรัฐหาทางที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งในเรื่องน่านน้ำ และเขตแดนอย่างสันติ
“สหรัฐไม่ลงทุนในด้านอิทธิพลทางการเมือง แต่จะมุ่งเน้นในเรื่องของการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ”
เทียบจีนไม่ติด
ทางด้านเจ้าหน้าที่อาวุโส สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ด้านเอเชียใต้ แสดงความเห็นว่า ถ้อยแถลงของปอมเปโอ ขาดความชัดเจนถึงรายละเอียดของนโยบายสหรัฐ และกองทุนที่ตั้งไว้ก็มีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับการลงทุนจากจีน
“จำนวน 113 ล้านดอลลาร์ เอาไปเปรียบเทียบกับเงินทุนจำนวน 62,000 ล้านดอลลาร์ ที่จีนจัดหาให้สำหรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถานยังไม่ได้เลย สหรัฐจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่า จะสร้างความได้เปรียบจากการลงทุนนี้อย่างไร ตั้งใจจะร่วมมือกับประเทศใด ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และสิงคโปร์”
ไอเรส บอกด้วยว่า การเดินทางเยือนอินเดียในเดือนกันยายนนี้ของปอมเปโอ จะเป็นโอกาสสำหรับการหารือในเชิงลึกถึงกลยุทธ์อินโดแปซิฟิค
