หัวเว่ยมอบระบบวิดีโอ เทเลคอนเฟอเรนซ์แบบเรียลไทม์เพื่อการแพทย์ ให้แก่ กรมควบคุมโรคและโรงพยาบาลในประเทศไทย เพื่อช่วยสนับสนุนประชาชนไทยในการต่อสู้กับโควิด-19
นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หัวเว่ยได้มอบระบบวิดีโอ เทเลคอนเฟอเรนซ์แบบเรียลไทม์เพื่อการแพทย์ (Huawei Telemedicine Video Conferencing Solution) ให้กรมควบคุมโรค เพื่อให้พร้อมรับมือไวรัสโควิด-19
สำหรับนวัตกรรมวิดีโอ เทเลคอนเฟอเรนซ์แบบเรียลไทม์เพื่อการแพทย์ดังกล่าว มีมูลค่ารวมประมาณ 10 ล้านบาท ประกอบด้วยระบบ Telepresence จำนวน 7 ชุด และสามารถรองรับบัญชีผู้ใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ได้ถึง 200 บัญชี โดยปฏิบัติการผ่านแพลตฟอร์ม CloudLink ของหัวเว่ยโดยทีมงานจากหัวเว่ยสามารถติดตั้งอุปกรณ์และระบบต่างๆ ใน 5 สถานที่สำคัญได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์จากทั่วประเทศไทยสามารถทำงานร่วมกับแพทย์และเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ในการให้คำปรึกษาออนไลน์ทางไกลกับผู้ป่วย ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการวินิจฉัยและรักษา ยิ่งไปกว่านั้น แพทย์และพยาบาลยังสามารถเฝ้าระวังอาการของผู้ป่วยจากที่ไหนก็ได้ ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ จึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
นอกจากนี้ ระบบ teleconsultation หรือการให้คำปรึกษาทางไกลและการฝึกอบรมแบบอินเตอร์แอคทีฟ ยังสามารถช่วยเสริมศักยภาพในการควบคุมโรคตามพื้นที่ต่างๆ ในประเทศอีกด้วย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์สารสนเทศ กรมควบคุมโรค โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจและกล่าวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ประจำการอยู่ ณ จุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สถาบันบําราศนราดูร, โรงพยาบาลบางพลีและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
“ผมขอขอบคุณทางหัวเว่ยที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในการรับมือกับโควิด-19 ผ่านความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีของบริษัท ผมหวังว่าหัวเว่ยจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทยและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรีกล่าว
- สธ.สุพรรณบุรีพบผู้ป่วยติดไวรัสโควิด-19 แล้ว 1 ราย
- โหลดเลย!! แผนที่ 18 โรงพยาบาล ตรวจไวรัส ‘โควิด-19’
- สั่งปิดศูนย์กักกัน ‘ไวรัสโควิด’ ทั่วประเทศ! ส่งกลุ่มเสี่ยงกักตัวที่บ้าน