Business

เจาะตลาดโมเดิร์นเทรด หลัง ‘ซีพี’ ซื้อ ‘เทสโก้ โลตัส’ 

ท่ามกลางวันประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทยที่ดัชนีติดลบ 7.96% ลดลง 108.63 จุด ลงไปแตะ 1,255.94 จุด ก็ได้มีข่าวใหญ่ไม่แพ้กันสอดแทรกขึ้นมา นั่นคือการประกาศซื้อกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ของกลุ่มซีพี (CPALL) ของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

ซีพี4

รายละเอียดสำคัญของดีลนี้ คือ กลุ่มซีพี จะเข้าลงทุนใน บริษัท เทสโก้ สโตร์ส ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะลงทุนต่อใน เทสโก้ โลตัส ทั้งหมดในประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย ซึ่งมูลค่าการซื้อกิจการครั้งนี้ อยู่ที่ 338,445 ล้านบาท โดยให้บริษัทในเครือ 3 แห่ง มาเป็นหุ้นส่วนในการซื้อ ได้แก่ 

บริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด 40%

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL อีก 40% 

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF อีก 20% 

ซีพี1

สำหรับดีลนี้เป็นที่จับตามองกันนานแล้วว่าจะมีเจ้าไหนที่คว้า เทสโก้ โลตัส ไปครองสำเร็จ เพราะนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ที่ Tesco ประเทศอังกฤษ ประกาศความเป็นไปได้ที่จะขายธุรกิจในไทยและมาเลเซีย ก็มีกลุ่มทุนใหญ่ 3 รายให้ความสนใจ ได้แก่ กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มไทยเบฟ และกลุ่มซีพี นั่นเอง 

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เกินคาด ก็คือตัวเลขการซื้อกิจการ เนื่องจากตอนแรกสุดมีการประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 2.1 แสนล้านบาท ก่อนขยับมาเป็น 2.7 แสนล้านบาท แต่ทั้งนี้ ตัวเลขที่ซื้อจริงๆ กลับพุ่งสูงถึง 3.14 แสนล้านบาทเลยทีเดียว 

ส่วนแบ่งตลาดโมเดิร์นเทรด หลัง ‘ซีพี’ ซื้อ ‘เทสโก้ โลตัส’ 

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของดีลครั้งนี้คงเป็นเรื่องของส่วนแบ่งตลาดโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ในประเทศไทย เนื่องจากการที่กลุ่มซีพี ควบรวมกิจการเทสโก้ โลตัส สำเร็จ หมายความว่าคู่แข่งในตลาดนี้จะเหลือเพียง 2 กลุ่มเท่านั้น ได้แก่ 1. กลุ่มซีพี (CP) ที่เป็นเจ้าของ แม็คโคร และเทสโก้ โลตัส 2. กลุ่มไทยเบฟ (ThaiBev) ที่เป็นเจ้าของบิ๊กซี

ทั้งนี้ เราจึงได้สำรวจข้อมูลกิจการในปี 2561 พบข้อมูลตัวเลขการเงินที่น่าสนใจ ดังนี้

ซีพี2

1. เทสโก้ โลตัส รายได้รวมอยู่ที่ 198,315 ล้านบาท และกำไร 9,628 ล้านบาท

2. สยามแม็คโคร รายได้รวมอยู่ที่ 192,930 ล้านบาท และมีกำไร 5,942 ล้านบาท

3. บิ๊กซี ซูเปอร์สโตร์ รายได้รวมอยู่ที่ 125,035 ล้านบาท และมีกำไร 6,364 ล้านบาท

หมายความว่าการที่ซีพี สามารถคว้า 2 ห้างโมเดิร์นเทรด เทสโก้ โลตัส กับ สยามแม็คโคร มาอยู่ในมือ จะส่งผลให้พวกเขาครองส่วนแบ่งการทางตลาดในสัดส่วนที่สูงถึง 75% ต่างจากไทยเบฟ ที่จะมีส่วนแบ่งเพียง 24.2% เท่านั้น

ซีพี3

อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านก็มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าการทำแบบนี้ของซีพี ถือเป็นการผูกขาดทางธุรกิจหรือไม่? ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ปัจจุบันของประเทศไทยในการดูว่าเป็นธุรกิจผู้ขาดไหม ได้นิยามไว้ว่า 

“กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจ 3 รายแรกในตลาดมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันมากกว่า 75% ในกรณีนี้จะถือว่ากิจการทั้ง 3 แห่งมีอำนาจเหนือตลาด หรือก็คือ “ผูกขาด” ในความเข้าใจของคนทั่วไป”

ขณะเดียวกันเรื่องนี้ เจ้าสัวธนินท์ ให้สัมภาษณ์ว่า “แม็คโครคือค้าส่ง โลตัสคือค้าปลีก 7-Eleven คือร้านสะดวกซื้อ มันคือสามธุรกิจ ทั่วโลกจะไม่เอามารวมกัน ธุรกิจคนละแบบ แล้วจะผูกขาดได้อย่างไร”

“การแข่งขันเหมือนเดิม เพราะว่าก็ยังมีคู่แข่งอยู่เหมือนเดิม แล้ววันนี้ที่แข่งกันอยู่มีใครเสียเปรียบไหม เราซื้อมาก็แข่งอยู่ บิ๊กซีก็ยังอยู่ ผมไม่ได้ซื้อบิ๊กซี ผมซื้อเฉพาะเทสโก้ โลตัส ส่วนแม็คโครก็ขายส่ง ขายถูก เพราะฉะนั้นผมคิดว่ามันแข่งกันอยู่แล้ว แต่ถ้าผมซื้อมาแล้วไม่มีใครแข่ง อันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง”

Avatar photo