เบลินดา หว่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สตาร์บัคส์ ประเทศจีน ต้องงัดทุกกลยุทธ์ที่เธอสั่งสมมาจากประสบการณ์กว่า 30 ปีในโลกธุรกิจค้าปลีก หลังจากต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
“เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่เคยประสบมาก่อน และเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่เรายังรู้จักมันไม่ดีพอ” เธอกล่าว
แม้ว่ายักษ์ใหญ่ในวงการกาแฟอย่างสตาร์บัคส์ จะเป็นแบรนด์ใหญ่รายแรกๆ ที่เริ่มเปิดสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อรับมือกับการระบาดของโรค แต่สตาร์บัคส์ยังคงปักหลักและสู้ไม่ถอยในตลาดจีน
บริษัทมอบ “ประสบการณ์สตาร์บัคส์ไร้สัมผัส” (Contactless Starbucks Experience) ให้กับลูกค้า โดยใช้ประโยชน์จากการสั่งซื้อแบบดิจิทัล และการส่งมอบสินค้าแบบ “ไร้สัมผัส” จัดส่งเครื่องดื่มจากสตาร์บัคส์ได้อย่างไม่สะดุด พร้อมๆ กับลดการติดต่อใกล้ชิดระหว่างกันในช่วงเวลาที่เชื้อไวรัสแพร่ระบาด
สตาร์บัคส์ยังตัดสินใจที่จะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานต่อไป แม้ว่าร้านสาขาบางแห่งจะปิดตัวลงชั่วคราว เนื่องจากผลกระทบทางการเงินอันมีสาเหตุมาจากการระบาดของโรคเช่นเดียวกัน
“เราต้องคำนึงถึงสิ่งที่ถูกที่ควร เพื่อปกป้องพนักงานและลูกค้าของสตาร์บัคส์” หว่อง ระบุ
ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจีนเริ่มลดลง สตาร์บัคจึงเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทประกาศว่าร้านกาแฟสตาร์บัคส์ 90% ได้กลับมาดำเนินการแล้ว โดยมีการปรับเวลาทำการ และกำหนดเงื่อนไขด้านความปลอดภัยต่างๆ
แม้ว่าร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงโรคระบาด แต่เมื่อ “สตาร์บัคส์ เซี่ยงไฮ้ รีเซิร์ฟ โรสเทอรี” (Shanghai Reserve Roastery) ในเซี่ยงไฮ้ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หว่องสังเกตเห็นว่าคอกาแฟขาประจำจำนวนหนึ่ง ที่ยินดีจะกลับมาดื่มกาแฟในสถานที่ที่พวกเขาคุ้นเคย
สตาร์บัคส์ เซี่ยงไฮ้ รีเซิร์ฟ โรสเทอรี เป็นร้านกาแฟภายใต้แนวคิดใหม่ ให้บริการแบบอินเตอร์แอคทีฟ และนำเทคโนโลยีเออาร์อันทันสมัยมาใช้ ฉีกกรอบการสั่งกาแฟรูปแบบเดิมๆ นับเป็นสาขาแรกที่เปิดให้บริการนอกสหรัฐ และเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในโลก
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ เซี่ยงไฮ้ รีเซิร์ฟ โรสเทอรี ขนาด 2,700 ตารางเมตรแห่งนี้ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง พร้อมปรับเปลี่ยนทางเข้าออก และลดจำนวนที่นั่งภายในร้าน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ ณ “จุดรักษาความปลอดภัย” บริเวณทางเข้า ทำหน้าที่ตรวจสอบอุณหภูมิร่างกาย, ให้บริการเวชภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อโรค และลงทะเบียนแก่ลูกค้า
ประเทศจีนเป็นตลาดระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด และเติบโตเร็วที่สุดของสตาร์บัคส์ โดยสตาร์บัคส์มีแผนขยายสาขาในจีนให้เป็น 2 เท่าของปัจจุบัน หรือประมาณ 6,000 แห่ง ภายในปีงบประมาณ 2022
“กาแฟไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม” หว่องกล่าว “มันเป็นสัญลักษณ์ของความปกติสุขและกิจวัตรในชีวิตประจำวัน”
ที่มา : Xinhua Thai
- ‘BMW’ ก้าวเป็นผู้นำรถหรูครองใจชาวจีน จ่อเปิดตัวยานยนต์พลังไฟฟ้า Concept i4
- ‘เทคโนโลยีดิจิทัล’ ที่ทำให้ชาวจีนใช้ชีวิตได้ ท่ามกลางวิกฤติ ‘โควิด-19’ ระบาด
- ‘ลอรีอัล’ ขึ้นแท่นผู้นำความงามในจีน วางกลยุทธ์เดินหน้าต่อ มั่นใจเติบโตร่วมกัน
