นักวิเคราะห์คาด ราคาน้ำมันดิบอาจทรุดถึง 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กับชาติพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โอเปคพลัส” (OPEC+) ประกอบกับปริมาณน้ำมันที่ซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ปล่อยเข้ามาในตลาด อาจกดดันให้ราคาน้ำมันร่วงลงไปเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 20 ดอลลาร์ในช่วงฤดูร้อนนี้
“น้ำมันราคา 20 ดอลลาร์ในปี 2563 กำลังจะเกิดขึ้น” อาลี เคเดอรี อดีตที่ปรึกษาอาวุโส ของเอ็กซอน โมบิล ในตะวันออกกลางทวีต พร้อมบอกว่า เรื่องนี้อาจหมายถึง “ช่วงเวลาแห่งการอัดฉีด” สำหรับผู้บริโภคโลก
ทางด้าน “โกลด์แมน แซคส์” วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ ก็ออกมาเตือนเช่นกันว่า ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ อาจมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะดิ่งลงไปเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“เราเชื่อว่าสงครามน้ำมันระหว่างโอเปค กับรัสเซีย เริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อซาอุดีอาระเบียลดราคาน้ำมันลงอย่างมาก เทขายในราคาต่ำสุดอย่างน้อยในรอบ 20 ปี” เดเมียน คูร์เวลิน นักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์ เขียนไว้ในรายงานที่ส่งถึงลูกค้า
เขาบอกด้วยว่า เรื่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มของตลาดน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติไปอย่างสิ้นเชิง และจะทำให้เกิด “New Oil Order” หรือการจัดระเบียบน้ำมันขึ้นมาให้ โดยที่ผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำ จะจัดหาน้ำมันเพิ่มมากขึ้น โดยใช้ความสามารถในการผลิตที่ยังเหลืออยู่ เพื่อบีบให้ผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูง ลดการผลิตลงมา
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ซาอุดี อาแรมโก” บริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ได้แจ้งไปยังผู้ซื้อว่า จะมอบส่วนลดราคาน้ำมันราว 4-8 ดอลลาร์ โดยสงวนข้อตกลงใหญ่สุดไว้ให้กับลูกค้าในสหรัฐ
ทั้งนี้ การทำสงครามราคาเกิดขึ้นหลังจากที่ซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ตกลงกันไม่ได้ในเรื่องการลดปริมาณการผลิตลงมาอีก ระหว่างการประชุมโอเปคพลัส ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (6 มี.ค.)
ข้อตกลงลดเพดานการผลิตของกลุ่มโอเปคพลัสในปัจจุบัน กำลังจะหมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโอเปค ผลักดันที่จะให้ลดการผลิตลงมาอีก จากความต้องการน้ำมันโลกที่ลดลง แต่รัสเซีย ที่กำลังแข่งขันกำลังผู้ผลิตน้ำมันจากหินเชลของสหรัฐ คัดค้านในเรื่องนี้
“ดูเหมือนว่า รัสเซียจะยึดนโยบายที่จะไล่ตามผู้ผลิตน้ำมันจากหินเชล แต่นโยบายของซาอุดีอาระเบียอยู่ที่การลดราคาลงมาโดยไม่สนว่าจะมีต้นทุนอยู่เท่าใด” จอห์น สฟาเคียนาคิส ผู้เชี่ยวชาญด้านอ่าวเปอร์เซีย จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระบุ
เขาบอกด้วยว่า เมื่อราคาน้ำมันลดลง ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตน้ำมันจากหินเชล จะต้องปิดกิจการไป ซึ่งจะทำให้การจัดหาของสหรัฐลดลง แต่ก็ต้องรอไปอีกระยะหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นภายใน 1-2 เดือนนี้
อย่างไรก็ดี สฟาเคียนาคิส ชี้ว่า แม้ซาอุดีอาระเบีย จะเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันต้นทุนต่ำ และสามารถรับมือกับการทำสงครามราคาน้ำมันได้ แต่เมื่อนำเรื่องเศรษฐกิจประเทศ ที่ต้องพึ่งพาเงินรายได้จากน้ำมันเป็นหลัก เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ราคาน้ำมันที่ร่วงลงนี้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจตกอยู่ในความเสี่ยง และถ้าราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 20 ดอลลาร์เป็นเวลานาน ก็จะถือเป็นข่าวร้ายสำหรับเศรษฐกิจ
