กัมพูชาเดินหน้าเข้าสู่การปกครองประเทศโดยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน อีกวาระหนึ่ง ในวันนี้ (30 ก.ค.) หนึ่งวันหลังจากที่พรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ของเขาประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป ที่บรรดากลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นการเลือกตั้งที่ทั้งไม่ยุติธรรม และไม่มีเสรีภาพ
สก อายสัน โฆษกซีพีพี แถลงเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.)ว่า พรรคสามารถคว้าที่นั่งในสภามาได้ราว 100 ที่นั่ง จากทั้งหมด 125 ที่นั่ง ซึ่งในเวลาต่อมา ดีเอพี เว็บไซต์ข่าวที่สนับสนุนรัฐบาลกัมพูชา ระบุว่า ซีพีพีได้ทั้งหมด 114 ที่นั่ง โดยที่พรรคการเมืองอีก 2 พรรค คือ พรรคฟุนซินเปค และพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตย ได้ไป 5 และ 6 ที่นั่งตามลำดับ
ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้ออกมาใช้สิทธิมากกว่า 82% เทียบกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 90% และการเลือกตั้งทั่วไปครั้งก่อน ในปี 2556 ที่ 69.61%
ก้าวถอยหลัง
บรรดานักวิจารณ์ ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการก้าวถอยหลังทางด้านประชาธิปไตยในกัมพูชา หลังเกิดการยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของประเทศเมื่อปีที่แล้ว และ เขม สกคา หัวหน้าพรรคโดนตัดสินจำคุก ในข้อหากบฏ
สม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พี ที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่เกิดขึ้น เป็นชัยชนะที่ “ว่างเปล่า” สำหรับฮุน เซน อดีตผู้บัญชาการกองกำลังเขมรแดง ที่ปกครองกัมพูชามานานเกือบ 33 ปีแล้ว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐออกมาประกาศว่า จะพิจารณามาตรการต่างๆ รวมถึง การขยายระยะเวลางดออกวีซ่าให้กับสมาชิกรัฐบาลกัมพูชาจำนวนหนึ่ง เพื่อตอบโต้ต่อ “การเลือกตั้งที่มีตำหนิ” ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับความใส่ใจอะไรมากนักจากผู้นำกัมพูชา ส่วนสหภาพยุโรป (อียู) ก็ขู่ที่จะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อกัมพูชาด้วย
ซาราห์ แซนเดอรส์ โฆษกทำเนียบข่าว แถลงว่า การเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชา ล้มเหลวที่จะแสดงให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนในประเทศ
“สหรัฐจะพิจารณามาตรการเพิ่มเติมจำนวนหนึ่ง เพื่อตอบสนองต่อการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น และการก้าวถอยหลังด้านประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนในกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงการขยายเวลาควบคุมวีซ่าที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561”
ทางด้าน แพ ไซฟัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ระบุว่า แถลงการณ์ของทำเนียบขาวเป็นความพยายามที่จะข่มขู่กัมพูชา และเป็นการต่อต้านชาวกัมพูชา ที่ออกไปใช้สิทธิเพื่อตัดสินโชคชะตาของตัวเอง
ประชาธิปไตยสูญสิ้น
มโนวิทยา เขม รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ ของซีเอ็นอาร์พี แถลงที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ในวันนี้ (30 ก.ค.)ว่า ทางพรรคยินดีกับแถลงการณ์ของทำเนียบขาว และหวังว่าฝ่ายอื่นๆ จะออกมาเคลื่อนไหวในทำนองเดียวกันนี้
ซีเอ็นอาร์พี ยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกปฏิเสธผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดของกัมพูชาด้วย
“29 กรกฎาคม 2561 ถือเป็นวันสิ้นสูญประชาธิปไตยในกัมพูชา เป็นวันแห่งความมืดหม่นครั้งใหม่ในประวัติศาสตร์ประเทศ ประชาคมโลกควรที่จะปฏิเสธผลการเลือกตั้งที่ซีพีพี และคณะกรรมการเลือกตั้งประกาศออกมา” มู โสเชื้อ รองประธานบริหารซีเอ็นอาร์พี กล่าว
