World News

‘ไวรัสโควิด-19’ ทำพนักงาน ‘สายการบิน’ หลายหมื่น ‘เสี่ยงตกงาน’

การระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารของสายการบินต่างๆ ดิ่งลงทั่วโลก สถานการณ์ที่อาจทำให้แรงงานในอุตสาหกรรมสายการบินหลายหมื่นคน ต้องสูญเสียตำแหน่งของตัวเองไป อย่างน้อยก็ชั่วคราว

airr

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ในขณะนี้สายการบินจำนวนหนึ่ง ได้เริ่มที่ปรับจำนวนพนักงานของตัวเองแล้ว ด้วยการขอให้พนักงานลาพักผ่อน โดยจะให้เงินค่าจ้างลดลง หรือขอให้ลางานแบบไม่รับค่าจ้าง แต่ยังไม่มีรายใดออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องการเลิกจ้างอย่างถาวร

กระนั้นก็ตาม สายการบินจำนวนต่างๆ ระงับการจ้างงานใหม่ทั้งหมด สถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของสายการบินในการหาคนมาทำให้ตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากที่วิกฤติผ่านพ้นไปแล้ว

“ทุกสายการบินต่างพิจารณาที่จะทำอะไรแบบนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นแผนการที่แข็งแกร่ง” ไมเคิล บอยด์ ที่ปรึกษาสายการบิน ระบุ

“คาเธ่ย์ แปซิฟิก” สายการบินรายใหญ่ ที่มีฐานการดำเนินงานอยู่ในฮ่องกง ถือเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดสุดในขณะนี้ โดยบริษัทประกาศลดเที่ยวบินลงมา 40% พร้อมขอให้พนักงานบริษัท ที่มีอยู่ทั้งหมด 33,000 คน ยื่นเรื่องลาหยุด แบบไม่รับค่าจ้างนาน 3 สัปดาห์ โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจ

“การรักษาเงินสดไว้ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะปกป้องธุรกิจของเรา ซึ่งเราได้ดำเนินมาตรการไปหลายอย่างแล้ว เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้” แถลงการณ์ที่คาเธ่ย์ออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว ระบุ

อย่างไรก็ดี สายการบินฮ่องกงรายนี้ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า มีพนักงานจำนวนมากน้อยเท่าใดที่สมัครใจลาพัก โดยไม่ได้รับเงินเดือน

ขณะที่ “ลุฟท์ฮันซ่า” ที่มีแผนจะลดความสามารถในการดำเนินงานลงมา 50% ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า บอกว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับสหภาพแรงงานของบริษัท เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงการปลดพนักงาน รวมถึง การลดชั่วโมงทำงาน

ส่วน “เอมิเรตส์” สายการบินที่มีฐานการดำเนินงานอยู่ที่ดูไบ และต้องพึ่งพาการเดินทางระหว่างประเทศเหมือนกับคาเธ่ย์ แปซิฟิค ก็ได้ดำเนินมาตรการทำนองเดียวกัน โดยขอให้พนักงานลาพักงาน

“ผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงาน ทำให้มีทรัพยากรเกินกว่าความต้องการในบางด้านของการทำธุรกิจในแต่ละวัน” แถลงการณ์ของเอมิเรตส์ ระบุว่า และว่า บริษัทต้องการที่จะปกป้องแรงงานของตัวเอง พร้อมจำกัดผลกระทบจากการระบาด แต่ขณะเดียวกันก็จะขอให้พนักงานลางานโดยไม่รับค่าจ้างนาน 1 เดือน

unii

ก่อนหน้านี้ ยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ และ เจ็ทบลู ต่างก็ประกาศลดเที่ยวบินลงมา เพราะความต้องการเดินทางที่ลดลงอย่างมาก ทั้ง 2 สายการบิน ยังมีแผนที่จะปรับจำนวนพนักงานด้วย

ยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ ที่ลดเที่ยวบินต่างประเทศลง 20% ลดเที่ยวบินในประเทศ และเที่ยวบินไปยังแคนาดา 10% กล่าวว่า จะขอให้พนักงานสมัครใจลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้าง หรือลดชั่วโมงการทำงานลงมา ทั้งยังจะระงับการจ้างงานไว้ก่อน รวมถึง นักบินจำนวน 23 คน ที่มีกำหนดเริ่มงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะยังยืนยันถึงความจำเป็นที่จะต้องจ้างงานนักบินเพิ่มร่วม 10,000 คน ในช่วงทศวรรษนี้ก็ตาม

ส่วนเจ็ทบลู ซึ่งลดเที่ยวบินทั้งหมดลงมา 5% กล่าวว่า บริษัทได้ลดการจ้างงานในทุกตำแหน่งลงมา และกำลังพิจารณาที่จะให้พนักงานลาหยุดตามความเหมาะสม นอกเหนือจากการจำกัดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

ข้อมูลจาก สมาคมการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) แสดงให้เห็นว่า สายการบินทั่วโลกว่าจ้างพนักงานจำนวน 2.95 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีอยู่ราว 462,000 คน อยู่ในสหรัฐ ซึ่งการจ้างงานที่ลดลงเพียง 5% ก็จะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานที่หายไปราว 150,00 คนทั่วโลก และมากกว่า 20,000 คนในสหรัฐ

บอยด์ ที่ปรึกษาสายการบิน แสดงความเชื่อมั่นว่า สถานการณ์ของสายการบินในขณะนี้ จะไม่รุนแรงเท่ากับที่เคยเกิดขึ้น ในช่วง 3 เดือน หลังจากเกิดเหตุวินาศกรรมสหรัฐ 11 กันยายน 2544 ที่สายการบินอเมริกันปลดพนักงานไปมากถึง 62,000 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 11% ของการจ้างงานในอุตสาหกรรมขณะนั้น เพราะสายการบินในปัจจุบัน มีจำนวนพนักงานที่้น้อยกว่าในตอนนั้น

Avatar photo