หลังจากเมื่อคืนวันที่ 8 มีนาคม 2563 แฟนเพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “มีนักข่าวคนไหน สนใจทำข่าว คนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีฉาวท่านหนึ่ง มีหน้ากากในสต็อกเป็นล้านอัน พร้อมหลักฐาน ติดต่อหลังไมค์ได้นะ ชาวโซเชียลหาเจอคนอมหน้ากากแล้วล่ะ”
หลังจากการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ข้อมูลเกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัยก็หลั่งไหลออกมาเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่า มีการไปดักซื้อหน้าโรงงาน หน้ากากอนามัยนี้เป็นแบบเดียวกับที่หมอใช้ผ่าตัดในโรงพยาบาล มีเงินก็ซื้อได้ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รีบออกมาชี้แจงโดยระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้กักตุนและขายหน้ากากอนามัย คือ นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตน ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของตน ยืนยันว่าไปพบกับนายศรสุวีร์ ตามคำแนะนำของเพื่อน เพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) กทม.แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัย และไม่เคยรู้จักกันกับ นายศรสุวีร์ มาก่อนโดยเป็นการพบกันครั้งแรก
ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพแคปหน้าจอเฟซบุ๊ก ที่โพสต์ขายหน้ากากที่มีการกักตุน อย่างเอิกเกริก พร้อมภาพถ่ายคู่กับคนสนิทของรัฐมนตรีท่านหนึ่ง อย่างกว้างขวางเช้าวันนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน ที่มีการกักตุนหน้ากากอนามัย ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ววันนี้ขาดแคลนมาก จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน หมอ และโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก
ขณะที่กลุ่มฉวยโอกาสก็เกิดขึ้นทันที ที่คอยหากินอยู่บนความเดือดร้อนของประชาชน จนเกิดคำถามขึ้นมาว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ที่รับผิดชอบโดยตรง
