General

งานด่วน! สธ.ไม่นิ่งนอนใจ เร่งกระจาย ‘หน้ากากอนามัย’ ให้บุคลากรทางการแพทย์แล้ว

งานด่วน ! อย. จับมือ พาณิชย์-ผู้ผลิตหน้ากากอนามัย เร่งกระจายสินค้า ให้หน่วยงานสาธารณสุข 700,000 ชิ้น/วัน ผ่าน 5 ช่องทาง ทั่วถึงทุกสถานพยาบาล ทั้งนอกและในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และรพ.เอกชน ย้ำประชาชน หากเจ็บป่วยไอ จาม ควรใส่หน้ากากอนามัย ถ้าประชาชนทั่วไป ไม่ควรใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์

นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ 1 e1583585270831

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่เกิดการระบาดขึ้นในประเทศต่าง ๆ นั้น ทำให้ “หน้ากากอนามัยทางการแพทย์” เป็นที่ต้องการของทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย หรือแม้กระทั่งประชาชนทั่วไป ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

กรมการค้าภายใน และ อย. รวมถึงผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทย ได้ประชุมร่วมกัน เพื่อหาข้อตกลงในการกระจายสินค้าจากผู้ผลิตในประเทศไทย ซึ่งมีอัตราการผลิต 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน

ในเบื้องต้นให้มีการกระจายสินค้าไปยังหน่วยงานในระบบสาธารณสุข 700,000 ชิ้น/วัน ประกอบด้วย 

1. สถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ โรงพยาบาล ในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค และกรมอื่น ๆ ได้รับการจัดสรร 400,000 ชิ้น/วัน

2. หน่วยงานนอกกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ โรงพยาบาลค่าย โรงพยาบาลตำรวจ กาชาด โรงพยาบาลรัฐวิสาหกิจ หรือโรงพยาบาลเทศบาลต่าง ๆ เป็นต้น ได้รับจัดสรรจำนวน 30,000 ชิ้น/วัน ทั้ง 2 กลุ่มนี้ มีองค์การเภสัชกรรมช่วยในการกระจายสินค้า

3. โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย และคณะทันตแพทย์ได้รับการจัดสรร 60,000 ชิ้น/วัน โดยทาง UHosNet (เครือข่ายโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย) ช่วยในการจัดสรร

4. โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกต่าง ๆ ได้รับการจัดสรร 140,000 ชิ้น/วัน มีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชนช่วยจัดสรร

5. โรงพยาบาล ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดสรร 70,000 ชิ้น/วัน โดยสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานครเป็น ผู้จัดสรร

ทั้งนี้ หากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 มีการเปลี่ยนแปลง จะดำเนินการจัดสรร ให้เป็นไปตามความเหมาะสมอีกครั้ง

” กระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นความสำคัญของการจัดหา หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ให้มีความเหมาะสม และเพียงพอแก่บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าที่จำเป็น ต้องให้การดูแลรักษาผู้ป่วย นับว่าเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญสูงสุดในสถานการณ์การระบาดขณะนี้ รวมถึงผู้ป่วยที่มาติดต่อกับโรงพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง นอกจากนั้นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ยังต้องใช้ใน การทำหัตถการอื่นด้วยเช่น การผ่าตัด การทำฟัน เป็นต้น การร่วมมือร่วมใจกัน จะทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยดี “ 

Avatar photo