เซี่ยงไฮ้ — ฟาบรีส เมการ์เบรน (Fabrice Megarbane) ประธานกรรมการและผู้บริหารของลอรีอัล (L’Oreal) บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศสกล่าวว่า ปี 2019 ที่ผ่านมา ยอดขายของลอรีอัลในตลาดจีนพุ่งสูงขึ้น 35% นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 15 ปี และยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการพัฒนาในประเทศจีน แม้ว่าจะมีสถานการณ์โรคระบาด
เมการ์เบรน ให้สัมภาษณ์ว่า สำนักงานใหญ่และศูนย์วิจัยนวัตกรรมลอรีอัลในเซี่ยงไฮ้ รวมถึงโรงงานผลิตในซูโจว เริ่มกลับมาดำเนินงานอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมกับมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
ในระหว่างการประชุมออนไลน์ บริษัทยังได้เปิดตัว ‘โครงการยักษ์ใหญ่’ (HUGE Project) ซึ่งเป็น กลยุทธ์ใหม่สำหรับอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้า พร้อมระบุถึง วิสัยทัศน์ของบริษัทในการร่วมสร้างภูมิทัศน์ใหม่ ของ ‘การบริโภคที่ดี’ ร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่น
“ในช่วงระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมา เราอ้าแขนรับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และยิ่งใหญ่ของประเทศจีน จนได้กลายเป็นผู้นำด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ผลกระทบระยะสั้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ส่งผลต่อพันธสัญญาที่เรามีต่อจีน รวมถึงความพยายามของเราที่จะสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นร่วมกันกับจีนได้” เมการ์เบรนกล่าว ซึ่ง ประเทศจีนนับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 สำหรับกลุ่มบริษัทลอรีอัลมาตั้งแต่ปี 2015
นอกจากนี้ เขายังเสริมอีกว่าจากประสบการณ์การเข้าร่วม งานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติประเทศจีน (CIIE) ที่จัดขึ้น 2 ครั้งแรก พิสูจน์แล้วว่า ลอรีอัล ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และ การจัดงานครั้งที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนในเมืองเซี่ยงไฮ้นี้ ลอรีอัลก็เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ปัจจุบันทางบริษัทกำลังเตรียมงานดังกล่าวอย่างแข็งขัน
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว
