Properties

คนไทยเสาะหาบ้านจาก ‘โซเชียล’ มากสุด พุ่งแซง ‘เข้าชมโครงการ’

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผยโซเชียลมีเดียมาแรงอันดับหนึ่ง คนไทยใช้หาบ้านกว่า 72% เบียดขึ้นที่ 1 แซงหน้าการเข้าชมโครงการด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่ยังสนใจราคาสูงสุด ตามด้วย ทำเล

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า จากผลสำรวจ “Thailand Consumer Sentiment Study” ฉบับล่าสุด ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย พบว่า การค้นหา (Search) ของผู้สนใจซื้อบ้าน อันดับ 1 หรือ 72% จะค้นหาจากโซเชียลมีเดีย 72% ซึ่งพุ่งก้าวกระโดดจากการสำรวจครั้งก่อนอยู่ในอันดับสามที่ 50%

money 2724248 1280

ขณะที่ อันดับสอง เป็นการค้นหาจากเว็บไซต์ของผู้ประกอบการอสังหาฯ จำนวน 69% จากครั้งที่ผ่านมาอยู่ในอันดับสี่ ที่ 43% ตามด้วยอันดับสามคือ เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาฯ อยู่ที่ 61% ซึ่งตกอันดับจากครั้งก่อนที่ติดอันดับสองด้วยจำนวน 61%

ผลการสำรวจครั้งล่าสุดนี้พบว่า ช่องทางการค้นหาข้อมูลของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก จากครั้งก่อนที่อันดับหนึ่งคือการเข้าชมโครงการด้วยตนเองถึง 79% ตามด้วยเว็บพอร์ทัลอสังหาฯ โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ เมื่อเจาะลึกตามช่วงวัยในครั้งนี้พบว่าผู้บริโภคอายุระหว่าง 22-29 ปี ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียค้นหาข้อมูลอสังหาฯ มากถึง 81% รองลงมาคือเว็บไซต์ของผู้ประกอบการ 77% ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไป

 

สำหรับข้อมูลที่ผู้บริโภคค้นหา เมื่อต้องการซื้อหรือเช่าอสังหาฯ พบว่า 3 อันดับแรก คือ ราคา 83% ตามด้วยทำเล 72%  และ ข้อมูลทางการเงิน 69%

H1 2020 Sentiment Study for FB1

สิ่งที่น่าสนใจคือพบว่ากลุ่มคนอายุระหว่าง 22-29 ปี ให้ความสำคัญกับข้อมูลทางการเงินถึง 78% อีกทั้งยังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภาษี 59% มาตรการของรัฐบาล 46% เอกสารและกระบวนการทางกฎหมาย 50% เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มต้นทำงานจึงยังไม่มีเงินออมมากนัก ข้อมูลดังกล่าวจึงมีความสำคัญมากสำหรับคนวัยนี้ มากกว่ากลุ่มคนอายุ 30-60 ปี ที่ค่อนข้างมีความพร้อมทางการเงินแล้ว

นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกโครงการอสังหาฯ ก็เป็นส่วนสำคัญทีผู้บริโภคต้องนำมาใช้พิจารณาเพื่อคัดเลือกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างรอบด้านและคุ้มค่ากับการลงทุนให้มากที่สุด สำหรับปัจจัยภายในสำคัญ ที่นำมาพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม./ตร.ว. อยู่ที่ 59%, ขนาดของที่พักอาศัย 50% และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ 45%

ขณะเดียวกันปัจจัยสำคัญภายนอกโครงการอสังหาฯ ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ 3 อันดับแรก คือ ทำเลของที่อยู่อาศัย 83%, ความปลอดภัยของทำเล 65% และ โครงสร้างพื้นฐาน / สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ 62%

..

จากนั้น เมื่อมีแผนว่าจะตัดสินใจซื้อบ้านแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ “เงิน” ที่ต้องใช้ในการลงทุน จากการสำรวจครั้งล่าสุดนี้พบว่า ผู้คนส่วนใหญ่มีการเตรียมออมเงินก่อนที่จะค้นหาอสังหาฯ โดย 44% เริ่มออมเงินก่อนค้นหาอสังหาฯ, 31% เริ่มออมหลังจากประเมินราคาอสังหาฯ และ 20% เริ่มออมเงินหลังจากตัดสินใจซื้ออสังหาฯ

จากผลสำรวจพฤติกรรมดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ก่อนตัดสินใจซื้อหรือเช่าอสังหาฯ ผู้บริโภคจะพิจารณาในหลายด้าน เพื่อหาสิ่งที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการในระยะยาว เพราะเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง และอีกมุมหนึ่งคือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการได้ทราบว่าควรวางกลยุทธ์หรือพัฒนาโครงการอย่างไรให้เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง

Avatar photo