จบคดีหวยอลเวง!! “หมวดจรูญ” แฮปปี้ได้ใช้เงิน 30 ล้านบาทแบบสบายใจ หลังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกอุทธรณ์ของ “ครูปรีชา” ในประเด็นศาลสั่งถอนอายัดเงินว่าไม่ชอบ
ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความส่วนตัว พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ และนางลาวัลย์ วิมูล หรือป้าลาวัลย์ ภรรยา พร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางมาถึงศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เลขดำที่ พ.1230/60 เลขแดงที่ 484/61 ที่ครูปรีชา เป็นโจทก์ และหมวดจรูญ เป็นจำเลย เรื่องละเมิด, เรียกทรัพย์คืน ที่บัลลังก์ที่ 10 เวลา 09.00 น.โดยครูปรีชา ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ด้วย ซึ่งศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษา ประมาณ 15 นาที จากนั้นทั้งหมดได้เดินลงมาจากศาล
ทั้งนี้ ทนายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษาในประเด็นที่ทางครูปรีชา ซึ่งเป็นโจทก์ได้อุทธรณ์ใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือคำสั่งที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงิน ลุงจรูญ ซึ่งศาลได้ตัดสินในประเด็นนี้ว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ฉะนั้น คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยในประเด็นนี้
ส่วนอีกประเด็นคือกระบวนพิจารณาเป็นกระบวนที่ผิดระเบียบ โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้ได้จำหน่ายคดีไปแล้ว ซึ่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีนี้ถึงแม้ว่าจะมีการจำหน่ายคดี แต่เป็นเพียงการจำหน่ายคดีชั่วคราว และอำนาจการวินิจฉัยก็เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นอีกเช่นกัน ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองเรื่อง เท่ากับว่า ลุงจรูญ มีสิทธิ์เต็มตัวในการใช้เงินและคำสั่งที่มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งคดีนี้ไม่สามารถฎีกาได้เนื่องจากการที่จะมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งอายัดเงินหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจในการพิจารณาในเรื่องนี้
สำหรับคดีหลักที่ครูปรีชา ยื่นฟ้องลุงจรูญ ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในวันที่ 25 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00 น. ซึ่งถือว่าใช้เวลาไม่นานก็จะทราบผลในคดีนี้แล้ว ซึ่งคดีอาญาหากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถือเป็นที่สุดแล้ว ไม่สามารถฎีกาได้ ซึ่งเท่ากับปิดฉากคดีหวย 30 ล้านบาททันที
ด้านหมวดจรูญ กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ซึ่งในความคิดตน ตนน่าจะอ่านใจของศาลถูก เพราะเรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเราผิดหรือถูก แต่คงไม่ขอออกความเห็นถึงอีกฝ่าย เพราะไม่อยากก้าวก่าย ทั้งนี้ หลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก็คงจะต้องปรึกษาทนายอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ขณะที่ทนายษิทรา ได้ตอบคำถามต่อเนื่องจากหมวดจรูญว่า เราได้มีการฟ้องครูปรีชา และนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา ไปแล้ว ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 30 มี.ค.ที่จะถึงนี้และหากศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาในคดีหลักออกมาชัดเจนแล้วว่า ตกลงกรรมสิทธิ์ของลอตเตอรี่ดังกล่าวนั้นเป็นของผู้ใด เราก็จะมีการดำเนินคดีกับทางพยานที่มาเบิกความเท็จด้วย
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ