Opinions

ติดปีกโลจิสติกส์ไทย

853

IMG 6273 คุณเอย

 

หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยคาดการณ์ว่าในปี 2561 นี้ อัตราการเติบโตธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ตามแนวเขตชายแดนจะมีการเติบโตขึ้นมากกว่า 50% ด้วยอานิสงส์จากการที่ภาครัฐได้สนับสนุนให้ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามเขตชายแดนต่างๆทั่วประเทศ โดยมีมาตรการส่งเสริม สนับสนุน ให้สิทธิและประโยชน์ต่างๆ
ประกอบกับแนวโน้มธุรกิจขนส่งภายในประเทศที่ค่อนข้างจะอิ่มตัวแล้ว ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจขนส่งไปยังชาติอาเซียนที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้จากการผู้ประกอบการที่นำเข้า-ส่งออกสินค้าในพื้นที่ด่านชายแดนที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากถึง 50% และที่สำคัญการใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งอาเซียน ดังนั้นหากมองด้านโอกาสจึงนับเป็นโอกาสทองที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรพลาด

อย่างไรก็ตามแนวโน้มการแข่งขันในธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ก็มีการแข่งขันกันที่สูงด้วย ทั้งในด้าน คุณภาพและราคา มีผู้ให้บริการทั้งไทยและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น การแข่งขันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งผู้ให้บริการที่อยู่รอดต้องพยายามหาจุดแข็งของตนเอง และมีเครือข่ายที่เข้มแข็งทั้งภายในและทั่วโลก

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์บ้านเรานับวันจะถูกบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติกลืนกินเกือบเกลี้ยงตลาด บริษัทขนส่งสายพันธุ์ไทยถูกมองเป็นแค่ “ปลาซิวปลาสร้อย”ที่นับวันยิ่งจะถูกปลาใหญ่สายพันธุ์เทศเขมือบกินใกล้จะหมดบ่อ ดังนั้นผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยจะเติบโต และอยู่รอดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถท่ามกลางการแข่งขันที่ทวีความเข้มข้นขึ้น”

ดังนั้นการขยายสู่ต่างประเทศถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นของบริษัทโลจิสติกส์ยุคใหม่ แต่เพื่อความแน่ใจต้องศึกษาเรื่องการลงทุนให้ดี หาพันธมิตรท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ซึ่งการเปิดสาขาเพิ่มจะทำให้การบริการได้สะดวกขึ้น และสามารถเพิ่มยอดยอดขายจากการขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้นด้วย

บริษัท อาร์ ที เอ็น โลจิสติคส์ จํากัด ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทด้านโลจิสติคส์ที่เป็นของคนไทยแท้ 100% อยู่เคียงคู่กับธุรกิจการขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออกแบบครบวงจร มานานกว่า 20 ปี โดยธุรกิจของบริษัทฯ นั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก โดยขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามด่านชายแดน คือ เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม และมีการส่งเข้าไปถึงประเทศจีนด้วย อีกส่วนเป็นธุรกิจทางด้านออนไลน์ เพื่อรองรับตลาดอี-คอมเมิร์ซ แพลทฟอร์ม เนื่องจากระยะหลังธุรกิจค้าออนไลน์ขยายตัวสูงมาก จึงได้พัฒนาบริการขึ้นมารองรับ

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้วางแผนการดำเนินธุรกิจไว้ 2 รูปแบบ เริ่มจากแผนระยะสั้น บริษัทฯ มีความต้องการเชื่อมการขนส่งระหว่างไทยกับ CLMV (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) ปัจจุบันมีให้บริการแล้ว 9 สาขา ซึ่งจะมีอยู่ตามทุกท่าเรือที่สำคัญ ด่านชายแดน และพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และปีนี้คาดว่า จะขยายสาขาไปยังประเทศเมียนมา และสปป.ลาว อีก 2 แห่ง เพื่อให้การขนส่งให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ส่วนแผนระยะยาวนั้น บริษัทฯ มีความต้องการที่จะขนส่งได้ไกลยิ่งขึ้น โดยใช้ไทยเป็นฮับการขนส่งสินค้า และทางสาขาเป็นตัวเชื่อมในการขนส่งไปยังภูมิภาคอื่นๆ เช่น จีน หรือ ยุโรป ซึ่งถ้าถึงวันนั้น การผลิตสินค้าเพื่อส่งออกของไทยน่าจะไปได้ไกลมากขึ้น และอาจจะเป็นเหมือนฮ่องกง สิงคโปร์ ที่เป็นฮับของการขนส่งในเอเชียได้อีกแห่งหนึ่ง และเป็นผู้นำในการขนส่ง