Business

พนักงานโพสต์ ‘ดีดีบินไทย’ ส่งสัญญาณ ใกล้ยกระดับ ‘ตัดค่าใช้จ่ายเต็มขั้น’

“ดีดีบินไทย” พบพนักงาน ปลุกใจช่วยกันรักษาบริษัท หลัง “ไวรัสโควิด-19” ทำสายการบินซวนเซ เตือนตอนนี้เข้าใกล้จุดที่ “เงินสด” มีปัญหา อาจต้องตัดค่าใช้จ่ายเต็มขั้น ตั้งแต่บนสุดถึงล่างสุด 2 หมื่นคนเดือดร้อนแน่

25611016 ๑๘๑๒๐๔ 0013

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้แจ้งผลประกอบการปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 1.2 หมื่นล้านบาทแก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) การบินไทย ได้เปิดเวทีชี้แจงพนักงาน (Staff Meeting) และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลประกอบการในปี 2562 และสถานการณ์ของบริษัทในวันเดียวกันด้วย

นายกฤษณรัตน์ บูรณะสัมฤทธิ (แอรอน) อดีตรองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Aaron Puranasamriddhi เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยมีใจความหลักๆ ว่า สายการบินไทยได้วางมาตรการรองรับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ชื่อ COCON ( Covid-19 Readiness Condition) ไว้ทั้งหมด 5 ระดับ ระดับที่ 5 เบาที่สุด และระดับที่ 1 หนักที่สุด

ระดับที่ 5 คือจับตาดูสถานการณ์ ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม จนถึงปิดเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ในวันที่ 25 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา และปัจจุบันการบินไทยได้เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการขึ้นมาเป็นระดับ 4 คือ งดบินบางจุด ลดเที่ยวบินลง โดยจะลดลงเรื่อยๆ ตามสถานการณ์ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายบางตัว

ทั้งนี้ การบินไทยจะยกมาตรการขึ้นสู่ระดับ 3 เมื่อถึงจุดที่ “เงินสด” น่าเป็นห่วง ให้บริการแล้วขาดทุนกระแสเงินสด ต้องประกาศ “ลดค่าใช้จ่ายเต็มรูปแบบ” ซึ่งปัจจุบันก็เข้าใกล้สู่ระดับที่ 3 อย่างมากแล้ว

“ดังนั้น DD ขอให้พนักงานทุกคน ลด เลื่อน เลิก ที่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อไม่ให้ไปถึงระดับ 3 หรือช้าที่สุด แต่ถ้ายังทำตัวเหมือนเดิม แล้วถึงระดับ 3 เมื่อไหร่ บอกได้เลยว่า ตั้งแต่บนสุดจนถึงล่างสุด เดือดร้อนทุกคนแน่”

88185904 3189041974463012 6977043886950580224 o
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Aaron Puranasamriddhi

โพสต์ฉบับเต็ม

สำหรับข้อความเต็มในเฟซบุ๊ก Aaron Puranasamriddhi มีดังนี้

“DD พบพนักงาน ตอน “ลด เลื่อน เลิก” เพื่อการบินไทยอยู่รอด

วันที่ 2 มีนาคม DD คุณสุเมธ ได้จัด Staff Meeting อีกครั้ง เพื่อพูดคุยกับพนักงานถึงสถานการณ์ของบริษัทที่โดนผลกระทบจาก Covid-19 โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจดังนี้

เริ่มต้นด้วยปี 2562 สถานการณ์ธุรกิจการบินทั่วโลกย่ำแย่ นักท่องเที่ยวเข้าไทยลดลง สายการบินปิดตัวไป 20 กว่าสาย รวมถึงยักษ์ใหญ่ที่เตรียมล้ม 2 สาย ส่วนการบินไทยขาดทุน 12,000 ล้านบาทด้วยปัจจัยที่ได้เคยกล่าวไว้แล้ว (สามารถหาอ่านได้ในกระทู้เก่า) ไทยแอร์เอเชีย และนกแอร์ ขาดทุนเช่นกัน ส่วนบางกอกแอร์เวย์ให้ไปดูบัญชีแล้วจะเข้าใจ

ปี 2563 เริ่มต้นดีมากสำหรับการบินไทย แต่ไม่กี่วันก็เจอปัญหา สหรัฐ-อิหร่าน ต่อด้วยเครื่องยนต์ GE 90 ทั่วโลกมีปัญหา 16 ตัว โดยอยู่ที่การบินไทย 14 ตัว เครื่องต้องจอด 10 ลำ แล้วต่อด้วย Covid-19 เมื่อวันที่ 25 มกราคมจนถึงปัจจุบัน

จากนั้น DD ได้พูดถึงแผนฟื้นฟูการบินไทย 2020 (ซึ่งผมไม่ขอเล่าในที่นี้ เพราะเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ ) รวมถึงโครงการการบินไทยคุณธรรมที่พนักงานมีส่วนร่วมในการเสนอแนะทางแก้ไขปัญหาในบริษัทซึ่งมีประโยชน์มาก รวมถึง การใช้ OKR เป็นตัวชี้วัดใหม่ที่ทำเสร็จเรียบร้อยเตรียมใช้ แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างต้องชะลอเพราะเกิด Covid-19 ขึ้นมา

แต่มีเรื่องนึงที่น่าจะเล่าได้ คือในวิกฤตแบบนี้ประเทศไทยควรจัด Bank Structure คือตารางการบินเข้า-ออกประเทศใหม่เพื่อให้ไทยเป็น Hub ทางการบินจริงๆ จาก 2 ช่วงครึ่งในทุกวันนี้ เป็น 4 ช่วง เพื่อทำให้การต่อเครื่องในภูมิภาคนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความแออัดของสนามบิน โดย DD จะประชุมร่วมกับสำนักงานการบินพลเรือน และสายการบินพันธมิตรเพื่อให้สำเร็จให้ได้

เรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายต่างๆ คือ การพัฒนาจาก BU ไปสู่ Commercialization หรือ “หน่วยพาณิชย์” เพื่อทำธุรกิจเต็มรูปแบบ โดยจะเริ่มที่ฝ่ายช่างให้เทียบกับ LH และ SQ ซึ่ง DT DM DL พร้อมที่จะ Upgrade ฝ่ายแล้ว

สิ่งที่ DD อยากให้คนการบินไทยทำที่สุดคือ ปรับวัฒนธรรมองค์กรไปสู่การเป็น Digital Culture ซึ่งถ้าไม่ปรับตัววันนี้ก็จะถูก Disruption เหมือนสายการบิน Thomas Cook ดังนั้นทุกคนจะอยู่แบบเดิมไม่ได้ เพราะจะไม่สามารถเข้าสู่ Digital Transformation และทุกคนต้องไปด้วยกัน ไม่มีการรอไม่งั้น Disruption แน่

88049955 3189042224462987 5619413778476040192 o
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Aaron Puranasamriddhi

มาตรการระดับ 4 เข้าใกล้ 3

มาถึงเรื่องราวที่พนักงานรอคอยคือ สถานการณ์บริษัทกับ Covid-19

DD เริ่มจากแสดงแผนภูมิของการคาดการณ์สถานการณ์ Covid-19 ซึ่งสรุปได้ว่า กว่าจะเข้าที่คือ “สิ้นปี” นี้

ในด้านผู้โดยสาร การบินไทยมีมาตรการป้องกัน 7 ข้อและจะมีออกมาเรื่อยๆ เพื่อความมั่นใจของลูกค้าและพนักงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับการดำเนินธุรกิจ ฝ่ายบริหารได้มีมาตรการที่เรียกว่า COCON ( Covid-19 Readiness Condition) ซึ่งมี 5 ระดับ ระดับ 5 เบาสุด ระดับ 1 หนักสุด

ระดับ 5 คือ จับตาดู ซึ่ง CMOC ได้จับตาดูและรายงานให้ทราบตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมจนถึงปิดอู่ฮั่น ในวันที่ 25 มกราคม

ระดับ 4 คือ ช่วงปัจจุบันที่ งดบินบางจุด ลดเที่ยวบินลง โดยจะลดลงเรื่อยๆตามสถานการณ์ (ตอนนี้ยังลดน้อยกว่า SQ เยอะ) และลดค่าใช้จ่ายบางตัว

ระดับ 3 คือ เมื่อถึงจุดนึงที่ “เงินสด” น่าเป็นห่วง บินแล้วขาดทุน “เงินสด” ต้องประกาศ “ลดค่าใช้จ่ายเต็มรูปแบบ” แน่นอนว่ากระทบพนักงาน ซึ่ง DD พยายามที่จะดึงให้นานที่สุด และขณะนี้ก็ใกล้ที่จะเข้าสู่ระดับ 3 อย่างมากแล้ว

ระดับ 2 และ 1 DD ไม่ขอบอกว่าคืออะไร ให้พนักงานภาวนาเลยว่าอย่าถึงจุดนี้ สำหรับระดับ 2 ให้ดูหลายสายการบินที่ได้ประกาศมาตรการใช้ไปแล้ว

ปัจจุบันฝ่ายบริหารได้ตั้งทีม 3 ทีมเพื่อติดตามอย่างใกล้ชิดทุกด้าน ทุกเที่ยวบินต้องคุ้มในการออกบิน ถ้าไม่คุ้มให้ดำเนินการ เปลี่ยนขนาดเครื่อง ควบรวมไฟล์ท หรือยกเลิก ตามลำดับเพื่อรักษา “เงินสด” ไว้ให้มากที่สุด

ดังนั้น DD ขอให้พนักงานทุกคน “ลด เลื่อน เลิก” ที่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อไม่ให้ไปถึงระดับ 3 หรือช้าที่สุด แต่ถ้ายังทำตัวเหมือนเดิม แล้วถึงระดับ 3 เมื่อไหร่ บอกได้เลยว่า

“ตั้งแต่บนสุดจนถึงล่างสุด เดือดร้อนทุกคนแน่”

*** ย้ำ ตอนนี้เราอยู่ระดับ 4 กำลังจะเข้าระดับ 3 แล้ว ***

การบินไทย 700x525

ขอความร่วมมือพนักงานฝ่าวิกฤต

วันนี้ฝ่ายบริหารทำทุกทางเพื่อยื้อออกไปให้นานที่สุด ก็อยู่ที่พนักงานว่าจะช่วยกัน “เต็มที่” หรือไม่

อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วพูดว่า “รู้งี้ทำแบบนั้นไปตั้งนานแล้วเพราะเมื่อกดปุ่มระดับ 1 แล้วทุกอย่างคือ “สาย” เกินไป อย่ามัวรอว่าฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ยังไม่ทำ “ทุกคน” ต้องช่วยกันอย่าง “เต็มที่” ใน “วันนี้” แล้ว

DD ปิดท้ายด้วยภาพ “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” เราต้องเป็น Last Man Standing ถ้าเราสามารถยืนสู้ได้จนเป็นคนสุดท้าย เราก็ชนะ ดังนั้นทุกคนต้อง “ร่วมมือร่วมใจ” กันให้มากที่สุด ทุกฝ่ายต้องปรับตัวเป็น “หน่วยพาณิชย์” เพื่อความอยู่รอดของบริษัท และนั้นคือสิ่งที่จะทำให้พวกเราและการบินไทย “อยู่รอด” ในที่สุด

ผมก็เขียนสรุปจากที่ฟังมาทั้งหมด

สุดท้ายอยู่ที่พวกเราแล้วครับ ว่าจะทำอย่างไร จะยอมเฉือนเนื้อ ตัดแขนเพื่อรักษาชีวิตและร่างกาย หรือจะอยู่แบบเดิมเพื่อไปตายด้วยกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับคน 20,000 คน ในวันนี้

แต่ผมเชื่อว่า เมื่อเกิดวิกฤตแบบนี้ เราจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อฟันฝ่าวิกฤตนี้ให้พ้นไปจนได้

เพราะเราคือ “คนการบินไทย” #SaveTG #THAI #TG #OneTG”

Avatar photo