‘กวางตุ้ง-เซี่ยงไฮ้’ สั่งกักโรคนักเดินทางจากประเทศเสี่ยง ‘ไวรัสโควิด-19’

โดย KANYAPORN PHUAKVISUTHI 3 มีนาคม 2563

มณฑลกวางตุ้ง และนครเซี่ยงไฮ้ของจีน สั่งกักโรค 14 วัน นักเดินทางที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 หวั่นนำเชื้อกลับเข้าประเทศ ในช่วงเวลาที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง

นายซู เว่ย โฆษกส่วนบริหารท้องถิ่นนครเซี่ยงไฮ้ แถลงในวันนี้ (3 มี.ค.)ว่า คำสั่งกักโรคนาน 14 วันของนครเซี่ยงไฮ้ จะมีผลบังคับใช้กับทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศ ที่ “ค่อนข้างมีความเสี่ยงจากไวรัส” ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีสัญชาติอะไรก็ตาม

ทางด้านมณฑลกวางตุ้ง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกสำคัญ ที่อยู่ติดกับฮ่องกง ก็ประกาศมาตรการทำนองเดียวกันนี้ออกมาด้วย

หนังสือพิมพ์หนานฟาง ของทางการจีนรายงานข่าวดังกล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า มณฑลกวางตุ้งเจาะจงไปที่ประเทศใดเป็นพิเศษหรือไม่ บอกแต่เพียงว่า การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของทางมณฑล ที่จะนำให้นโยบายสาธารณสุขแข็งแกร่งมากขึ้น เมื่อพิจารณาถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีน

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ที่มาจากประเทศที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก เดินทางเข้ามายังกวางตุ้งแล้ว 1,496 แต่จากการตรวจสอบจนถึงตอนนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสแต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่จีนยังเรียกร้องให้ชาวจีนในต่างประเทศ ทบทวนแผนการเดินทางของตัวเองด้วย

“เพื่อสุขภาพ และความปลอดภัยของครอบครัวพวกคุณ กรุณาเพิ่มการป้องกันให้มากขึ้น ตัดสินใจอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับแผนการเดินทาง และจำกัดการเคลื่อนไหวให้เหลือน้อยที่สุด” เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ในมณฑลทางตอนใต้ของจีน ระบุ

ทั้งนี้ ไวรัสโควิด-19 พบเป็นครั้งแรกที่เมืองอู่ฮัน ของจีนในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก่อนที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งล่าสุดนั้น จีนมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างมาก ตรงข้ามกับประเทศอื่นๆ ที่รายงานถึงการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ ที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 5,000 คน กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสมากสุดในโลก ไม่นับรวมจีน เช่นเดียวกับอิตาลี ที่จำนวนผู้ติดเชื้อทะยานสูงเกิน 1,500 คนแล้ว