วันนี้ (2 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมชี้แจงมอบนโยบายการบริหารจัดการภัยแล้ง และเตรียมการเก็บน้ำฤดูฝน ปี 2563 เพื่อให้เข้าใจถึงการดำเนินงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกับทุกภาคส่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้บริหาร ทส. เข้าร่วมการประชุม ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
นายวราวุธ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาด้านน้ำอย่างยั่งยืน รัฐบาลได้ยึดแนวทางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นหลักในการดำเนินงาน ประกอบกับนายกรัฐมนตรี ได้ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดปลูกฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำ โดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงภาคเอกชนและประชาชน เพื่อกำหนดแผนดำเนินการให้ชัดเจน
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ ฟื้นฟู การพัฒนาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการเชิงลุ่มน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และท้ายน้ำอย่างเป็นระบบ โดยได้จัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศ ในระยะ 20 ปี และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีแผนงานโครงการสําคัญที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาในพื้นที่ภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก จำนวน 456 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนของรัฐบาล
เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำและอุทกภัยได้อย่างมีศักยภาพทั่วประเทศ โดยสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ได้กว่า 4,700 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์กว่า 7 ล้านไร่ ราษฎรได้ประโยชน์กว่า 6 แสนครัวเรือน
ดังนั้น ในการดำเนินงานโครงการขนาดใหญ่จะมีกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลา ต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ บางพื้นที่คัดค้านจนโครงการต้องหยุดและชะลอไป จึงต้องขอความร่วมมือทุกหน่วยงานร่วมกันระดมความคิดในการหามาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น เพื่อให้ปัญหาวิกฤติภัยแล้งผ่านพ้นไปได้ เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป