Politics

‘บิ๊กตู่’ เผย ‘ในหลวง-พระราชินี’ ทรงห่วงใยปัญหาภัยแล้ง

“นายกรัฐมนตรี” เผย “ในหลวง-พระราชินี” ทรงห่วงใยพร้อมรับสั่งให้รัฐบาลช่วยเหลือประชาชน ชี้ “ภัยแล้ง” เป็นปัญหาหลักของประเทศ

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีมอบนโยบายการบริหารจัดการภัยแล้งและเตรียมการเก็บน้ำฤดูฝนปี 2563 โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้มีสองเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจคือ 1.ทำอย่างไรให้มีน้ำใช้อย่างยั่งยืนพร้อทเก็บกักน้ำใช้ในฤดูแล้งและฤดูปกติได้อย่างไร 2.การแก้ปัญหาภัยแล้งที่ปีนี้มีภัยธรรมชาติหลายด้านทำให้ปริมาณน้ำน้อยมากเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ไข ซึ่งดีใจทุกคนมีส่วนร่วมทั้งผู้ใช้น้ำและการบริหารจัดการน้ำ ทุกหน่วยงานมีผลงานปรากฎ แต่ทำอย่างไรประชาชนจะเข้าใจ ขณะเดียวกันมีหลายพื้นที่ยังมีปัญหา เนื่องจากไม่มีการเตรียมการไว้

ประยุทธ์23631

ทั้งนี้หน้าที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบทั้งหมด โดยขับเคลื่อนทุกอย่างให้ได้ในปี 63 เราต้องเก็บกักน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะปัจจุบันโลกเปลี่นนแปลงเราต้องเตรียมการรองรับไว้ทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมากว่า 10 ปีหลายอย่างล่าช้าแต่เรามาเร่งรัดสร้างแหล่งน้ำในช่วงที่ผ่านมา โดยการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ อีกทั้งรัฐบาลระมัดระวังในเรื่องการทำงานโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ทรงห่วงใยประชาชนและทรงรับสั่งรัฐบาลว่าทำอย่างไรให้ลดผลกระทบและให้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งรัฐบาลก็น้อมรับไว้ใส่เกล้าฯ ติดตามแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด

“ขอให้ทุกคนมองการทำงานรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาเรื่องน้ำ และผลงานการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ซึ่งอยากให้สนใจเรื่องนี้บ้าง ดีกว่าไปสนใจเรื่องอื่นๆ หลายคนไม่สนใจแต่ไม่เป็นไรรัฐบาลจะทำต่อไป อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้อนุมัติงบกลางเพิ่มเติมไปแล้วในแผนงานเร่งด่วน เพื่อหาวิธีส่งเสริมการจัดแหล่งเก็บกักน้ำ โดยหลายพื้นที่และทุกจังหวัดก็มีงบลงไป ซึ่งเป็นการใช้จ่ายงบกลางฉุกเฉินเมื่อจำเป็นไม่ใช่นายกฯ เอางบกลางมาตัวเลขเท่าไหร่แล้วสั่งให้ได้ทั้งหมด ซึ่งทำไม่ได้ อำนาจของตนไม่ได้มีขนาดนั้น แต่ถึงมีอำนาจก็ไม่ทำเช่นนั้น เพราะทุกอย่างการใช้จ่ายงบประมาณมีการตรวจสอบทุกอัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ ผมคิดว่าทุกคนเข้าใจว่าภัยแล้งเป็นปัญหาหลักของประเทศ วันนี้เรามีปัญหาอยู่หลายด้าน ซึ่งปัญหาทุกปัญหาเราต้องบูรณาการแก้ปัญหา และทุกอย่างมีบทเรียนมาทั้งสิ้นจากในอดีตที่ผ่านมา ถ้าเราไม่เอาอดีตแล้วไปทำมันก็จะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป ดังนั้นความร่วมมือของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ โดยรัฐบาลก็ต้องซื่อสัตย์สุจริตและทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยตรง

“นั่นคือเจตนารมณ์และความตั้งใจของผม และคิดว่าทุกคนก็ตั้งใจแบบผม วันนี้ทำอย่างไรให้สิ่งที่ดีเกิดขึ้น สิ่งไม่ดีก็ช่วยกันแก้ต่อไป หลายๆอย่างอย่าให้มีผลกระทบซึ่งกันและกัน ท้ายที่สุดก็จะไม่มีอะไรให้โทษใครได้อีกแล้ว เพราะประเทศชาติเสียหายไปแล้วในสายตาของต่างประเทศและความเชื่อมั่นในประเทศ ทุกอย่างเสียหายไปทั้งหมด และไม่มีใครแก้ไขได้ก็คือสิ่งที่ผมต้องการให้ทุกคนทราบ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Avatar photo