ส่วนบริหารท้องถิ่นกรุงโซล ของเกาหลีใต้ ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการกลาง ขอสอบสวนแกนนำ “ชินชอนจิ” ในข้อหาฆาตกรรม จากการที่ปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือกับความพยายามของทางการ ที่จะควบคุมการแพร่ระบาด “ไวรัสโควิด-19”
จนถึงขณะนี้ เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วมากกว่า 4,000 คน ถือเป็นประเทศที่มีการติดเชื้อมากสุดในโลก ไม่รวมจีน และมีแนวโน้มที่จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อง โดยการติดเชื้อส่วนใหญ่ย้อนรอยกลับไปได้ถึง “โบสถ์แห่งเยซูชินชอนจิ” กลุ่มศาสนาที่ก่อตั้งโดยนายลี มัน ฮี
นายปาร์ก วอน ซูน นายกเทศมนตรีกรุงโซล ระบุว่า ถ้านายลี และแกนนำคนอื่นๆ ของกลุ่มชินชอนจิ ให้ความร่วมมือกับทางการ มาตรการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ ก็อาจจะช่วยบรรดาผู้ติดเชื้อ ที่เสียชีวิตในเวลาต่อมาได้
“สถานการณ์นี้เป็นเรื่องเร่งด่วน และรุนแรง แต่บรรดาแกนนำชินชอนจิ รวมถึง นายลี มัน ฮี อยู่ที่ไหนกัน” นายปาร์กโพสต์ข้อความลงบนหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง
ขณะที่ส่วนบริหารท้องถิ่นกรุงโซล แถลงว่า ได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อสำนักงานงานอัยการกลางเขตโซลกลาง ขอให้ดำเนินการสอบสวนนายลี และแกนนำอีก 12 คน ในข้อหาฆาตกรรม และละเมิดกฎหมายควบคุมโรค
ทางด้านสำนักงานอัยการ ระบุว่า ได้รับคำฟ้องดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วม 3,000 คน อยู่ที่เมืองแทกู เมืองใหญ่สุดอันดับ 4 ของประเทศ ที่มีสาขาของชินชอนจิตั้งอยู่ และหญิงวัย 61 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสเข้าร่วมกิจกรรมของทางกลุ่มถึง 2 ครั้งด้วยกัน
ชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก กล่าวโทษความลึกลับ และปิดเงียบในการจัดกิจกรรมของกลุ่มว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรค และทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุด ศูนย์ป้องกัน และควบคุมโรคเกาหลีใต้ (เคซีดีซี) รายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศที่ 4,212 คน และเสียชีวิต 22 ราย
ขณะที่เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) ชินชอนจิได้ออกแถลงการณ์ย้ำข้อเรียกร้องให้ยุติการประทับตราบาป ความเกลียดชัง และการใส่ร้ายต่อเหล่าสมาชิกชินชอนจิ พร้อมย้ำว่าทางกลุ่มได้ให้ความร่วมมือกับทางการในเรื่องไวรัสโควิด-19
