Properties

‘ศุภาลัย’ จับโอกาสในวิกฤต กำเงิน 2,000 ล้าน ซื้อหุ้นคืน- ลุยลงทุนต่อเนื่อง

แม้ว่าปีนี้ ทุกค่ายอสังหาริมทรัพย์ จะออกมาฟันธงอย่างพร้อมเพรียงว่า เป็นอีกปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญความท้าทายอย่างมาก และมากกว่าปีที่ผ่านมาที่ว่าแย่แล้ว ส่งผลให้หลายค่ายต้องใช้กลยุทธ์ “ระมัดระวัง” ในการลงทุนพัฒนาโครงการอย่างมาก

แต่สำหรับ “ศุภาลัย” หนึ่งในบิ๊กเนมวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่แม้จะมีมุมมองไม่ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ในแง่ของความยากลำบากและความท้าทายในธุรกิจภาพรวม แต่กลยุทธ์ของ ศุภาลัยกลับต่างออกไป จากการมองเห็นหลายๆ โอกาสในภาวะวิกฤต

คุณประทีป ตั้งมติธรรม 02
ประทีป ตั้งมติธรรม

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) เปิดเผยว่า โอกาสอย่างแรกที่ศุภาลัยมองเห็นคือ การซื้อหุ้นของบริษัทกลับคืนมา หลังจากราคาหุ้นลดลงจนราคาตลาดที่เป็นอยู่ ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมาก โดยเตรียมงบสำหรับซื้อหุ้นคืน 2,000 ล้านบาท คิดเป็น 120 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 5.6% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้ว กำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.-11 ส.ค.63

การซื้อหุ้นบริษัทคืนในภาวะราคาดิ่งรูดครั้งนี้ ซีอีโอศุภาลัยมองว่า การซื้อหุ้นคืนจะเป็นการเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น รวมทั้งสามารถสะท้อนถึงสถานะทางการของบริษัทที่มั่นคง โดยบริษัทยังคงมีข้อมูลกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินที่ทำให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจได้ เห็นได้จากงบการเงินสอบทานตรวจสอบงวดล่สุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 กำไรสะสมของบริษัท เท่ากับ 29,911 ล้านบาท

154382

นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทในปี 2562 ที่ผ่านมา ยังสามารถทำยอดขายได้กว่า 22,324 ล้านบาท มาจากเป็นคอนโดมิเนียม 38% และแนวราบ 62% จากการเปิดตัวโครงการ ทั้งหมด 24 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 19 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 23,957 ล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2561 และมี กำไรสุทธิ 5,403 ล้านบาท ลดลง 6 % เนื่องจากจำนวนโครงการที่เปิดตัวลดลงและมาตรการแอลทีวี

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 38,655 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562 ซึ่งจะเป็นการรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทในอนาคต

“สถานะของบริษัทมีความมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น และมีความเสี่ยงทางการเงินลดลง เพราะมีหนี้สินลดลง และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง แต่ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการกระจายการเติบโตไปในทำเลต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นทั้งการเพิ่มศักยภาพการเติบโต และการกระจายความเสี่ยงไปด้วย”นายประทีปกล่าว

154385 1
ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม

ด้านนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกโอกาสที่บริษัทมองเห็นคือ ภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตลดลง จะทำให้เห็นราคาที่ดินที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ทำให้เป็นโอกาสในการซื้อที่ดินเพื่อรอการพัฒนาในอนาคต

“นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะมีความได้เปรียบเสียเปรียบต่างกัน และโอกาสเก็บเกี่ยวต่างกัน ถ้ามีต้นทุนและภาระหนี้สูง ก็ไม่มีโอกาสเก็บเกี่ยวที่ดินที่ราคาเหมาะสมได้ แต่เราถือว่ามีความพร้อมในการลงทุนเพื่อซื้อที่ดินที่ราคาเหมาะสม โดยปีนี้จะซื้อที่ดินในกรุงเทพมากกว่าต่างจังหวัด ตั้งเป้างบลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท และงบก่อสร้าง 1.2 หมื่นล้านบาท”นายไตรเตชะ กล่าว

ขณะที่แผนการลงทุนในปีนี้ ศุภาลัยวางเป้าหมายรเปิดตัวโครงการใหม่ 30 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 25 โครงการ และโครงการ คอนโดมิเนียม 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท พร้อมรุกเปิดตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมด้วยทำเลศักยภาพ อาทิ พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และฉะเชิงเทรา เพื่อครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาค

ศุภาลัย พรีมา วิลล่า นครราชสีมา 1

สำหรับในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ทำเล ที่น่าสนใจยังเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากขึ้น และรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอย่างสายสีเหลือง สีชมพู และสีส้ม ที่มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีความต้องการของที่อยู่อาศัยสูงพร้อมมุ่งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตของบริษัท

“แม้ยอดขายและรายได้อาจจะโดนกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและสภาพตลาดที่ไม่ดีเหมือนเดิมบ้าง แต่ถ้าพูดถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะให้บริษัทแข็งแรงและเติบโตต่อไป เรามีความพร้อมมาก”นายไตรเตชะ กล่าว

Avatar photo