ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โลกค่อนข้างจะแตกต่างไปจากที่เคยเป็นมา โดยทุกความสนใจทั่วโลกต่างพุ่งมาในเรื่องเดียวกันคือ “ไวรัสโควิด-19”
เริ่มต้นจากการเป็นเชื้อไวรัสลึกลับ ที่ไม่รู้ที่มาที่ไป และไม่รู้ว่าเป็นเชื้อโรคชนิดไหน มาวันนี้ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” ที่ได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลก (ฮู) ว่า “ไวรัสโควิด-19” ได้กลายมาเป็นคำพูดที่ติดปากเกือบทุกคนบนโลกนี้ไปแล้ว
ไวรัสโควิด-19 เริ่มต้นการระบาดในเมืองอู่ฮั่น เมืองที่มีประชากรมากกว่า 11 ล้านคน และเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของจีน โดยรายงานผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในจีน ก่อนที่ปัจจุบันจะพบการระบาดแล้วใน 60 ประเทศหรือดินแดนทั่วโลก ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อนี้ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับแต่ที่พบเชื้อไวรัสเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในฮ่องกง เตือนว่า หากโลกไม่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ก็จะทำให้ราว 2 ใน 3 ของประชากรโลกกลายเป็นผู้ติดเชื้อนี้
ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ระบบวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้ พุ่งสูงเกินกว่า 2,800 รายแล้ว โดยในปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หายป่วยแล้วเกือบ 40,000 คน จากยอดรวมผู้ติดเชื้อมากกว่า 85,000 คน โดยการหายป่วยจากเชื้อไวรัสชนิดนี้ ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายด้วย ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตไปนั้น ส่วนใหญ่มีสุขภาพที่ย่ำแย่อยู่แล้ว
คุมเข้มการเดินทาง
การระบาดของไวรัส-19 ทำให้ทั่วโลกต้องเผชิญกับการควบคุมการเดินทางที่เข้มงวดขึ้น โดยมีหลายประเทศ ปฎิเสธการเข้าเมืองของผู้โดยสาร ทีมีประวัติเดินทางไปจีน อิตาลี เกาหลีใต้ และภูมิภาคต่างๆ ที่มีรายงานถึงการพบผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มมากขึ้น
- ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ สหรัฐ และเวียดนาม อยู่ในกลุ่มประเทศที่ห้ามทุกคนที่เพิ่งเดินทาง หรือแวะเปลี่ยนเครื่องในจีน ช่วง 14-28 วัน ห้ามเข้าประเทศอย่างเด็ดขาด
- อารูบา ฟิจิ อิสราเอล จอร์แดน เลบานอน มองโกเลีย และซีเชลส์ รวมอยู่ในกลุ่มประเทศที่ห้ามบุคคลที่เดินทางไปยังอิตาลีในช่วง 14 วันล่าสุด เดินทางเข้าประเทศของตัวเอง
โดยรวมแล้ว ประเทศต่างๆ ในยุโรป มีกฎควบคุมการเดินทางไม่มากนัก ยกเว้นโปแลนด์ ที่กำหนดให้ทุกคนที่เดินทางมาจากจีน ฮ่องกง อิตาลี เกาหลีใต้ หรือมาเก๊า ต้องกรอกรายละเอียดสำแดงสุขภาพ
“ปิดเมือง-ปิดโรงเรียน” ทางเลือกสกัดการระบาด
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังทำให้เกิดปรากฎการณ์ “ปิดเมือง” ขึ้น ในความพยายามที่จะควบคุมการระบาด โดยเหตุการณ์นี้ เริ่มขึ้นเป็นแห่งแรกที่เมืองอู่ฮั่น ของจีน สถานที่แรกที่พบเชื้อไวรัส ก่อนที่จะขยายวงครอบคลุมทั้งมณฑลหูเป่ย์ เมื่อการระบาดของเชื้อไวรัสเพิ่มความรุนแรงขึ้น
แคว้นลอมบาเดียของอิตาลี ก็ได้นำมาตรการนี้ไปใช้ หลังจากที่ต้องรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีคำสั่งปิดเมือง และหมู่บ้านรวม 10 แห่ง เพื่อสกัดกั้นการระบาด
ขณะที่เกาหลีใต้ เลือกที่จะใช้วิธีกำหนด “เขตบริหารจัดการพิเศษ” ต่อเมืองแทกู ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยที่ไม่ได้ปิดตายเมืองทั้งหมด ผู้คนยังสามารถใช้ชีวิตเดินทางเข้าออกจากเมืองได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ยังมีประเทศ หรือดินแดน อีกจำนวนหนึ่ง ที่เลือกใช้วิธีการปิดโรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยญี่ปุ่น เป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศปิดโรงเรียนในทุกระดับชั้นทั่วประเทศ
ก่อนหน้านั้น ฮ่องกง ก็ได้ประกาศให้ทุกโรงเรียน ที่บางแห่งปิดมาตั้งแต่ก่อนเทศกาลตรุษจีนแล้ว เลื่อนเวลาการเปิดเรียนออกไปอย่างน้อยจนถึงวันที่ 19 เมษายน
สารพัดงานเจอโรคเลื่อน
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลามไปทั่วโลก จนประเทศ หรือดินแดนต่างๆ ต้องจัดวางมาตรการป้องกัน และควบคุมการระบาดนั้น ทำให้การจัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลประจำปี การแข่งขันกีฬา หรือคอนเสิร์ต ต้องเลื่อน หรือยกเลิกกันไปเป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัวของฝูงชนจำนวนมาก ที่อาจทำให้การระบาดขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว
ปรากฎการณ์ดังกล่าว ทำให้ในปีนี้ญี่ปุ่นจะไม่มีการจัดงาน “เทศกาลชมดอกซากุระ” ประจำปี บรรดาคนรักรถยนต์ก็จะไม่ได้ไปเที่ยวงานแสดงรถยนต์ “เจนีวา มอเตอร์โชว์” สาวกวงบอยแบนด์ “BTS” ก็ต้องอดดูคอนเสิร์ตในเกาหลีใต้ หรือแม้กระทั่ง คนรักหนังสือในไทย ก็อดไปเดินเลือกหาหนังสือภายในงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ”
ไม่เว้นแม้แต่งานประชุมประจำปีของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี อย่าง เฟซบุ๊ก และกูเกิล ที่ประกาศยกเลิกการจัดงานไปก่อน เพราะกังวลถึงการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ ที่นับถึงเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 2,800 ราย
ทุบ ‘ตลาดหุ้น’ ดิ่งหนัก
ความกังวลถึงผลกระทบที่ไวรัสโควิด-19 มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากที่การระบาดของเชื้อไวรัสนี้ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายพื้นที่ต้องหยุดชะงัก บริษัทจำนวนมาก โดยเฉพาะในจีน ต้องระงับการดำเนินงานชั่วคราว สายการบินทั่วโลกต้องลดเที่ยวบินลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศในด้านลบเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุนอย่างหนัก กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงเป็นประวัติการณ์
ช่วงเวลา 6 วันที่ผ่านมา มูลค่าตลาดของตลาดหุ้นทั่วโลกหายไปถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยตลาดหุ้นหลายแห่งได้ทรุดตัวลงเข้าสู่โซนปรับฐาน ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ผู้บริโภคเริ่มลดการใช้จ่าย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมา และช่วยชดเชยการใช้จ่ายในภาคธุรกิจที่น่าผิดหวัง
- อนามัยโลก’ ยกระดับความเสี่ยง ‘ไวรัสโควิด-19’ ขึ้นสูงสุด
- ‘ไวรัสโควิด-19’ ลาม 50 ชาติทั่วโลก ยอดตายเฉียด 3 พัน พบ ‘สุนัข’ ติดเชื้อด้วย
- สธ.เผยล่าสุด ‘ไกด์หนุ่มวัย 25 ปี’ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
- ผู้นำ WHO ชี้ทั่วโลกติดเชื้อ ‘ไวรัสโควิด-19’ สูงกว่าในจีน
- ‘ไวรัสโควิด-19’ ทำท่องเที่ยวโลกเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านดอลล์
- เกาหลีใต้’ ติดเชื้อ ‘ไวรัสโควิด-19’ เกิน 2,000 คน คาดพุ่งต่อเนื่อง
- ผู้เชี่ยวชาญจีนมั่นใจ คุม ‘ไวรัสโควิด-19’ ได้สิ้นเดือนเม.ย. นี้
- กังวล ‘ไวรัสโควิด-19’ ระบาด ‘ซาอุฯ’ งดออกวีซ่า ‘แสวงบุญ’
- ญี่ปุ่นเจอคนแรก อดีตคนไข้ ‘ไวรัสโควิด-19’ ติดเชื้อรอบ 2
