แหล่งข่าวจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่าขณะนี้คณะกรรมการการบินไทย ได้ยื่นหนังสือลาออกแล้ว 4 คน คาดว่าจะมีผลแล้วตั้งแต่วันนี้ (29ก.พ.) การบินไทยน่าจะมีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในวันที่ 2 มีนาคม 2563 โดยกรรมการที่ยื่นลาออกประกอบด้วย
1. นางปรารถนา มงคลกุล ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการการบินไทยวาระที่ 2 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2561- ปัจจุบัน
2. นายพินิจ พัวพันธ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการบินไทย วาระที่ 2 วันที่ 26 เมษายน 2561 – ปัจจุบัน
3. นางสาวศิริกุล เลากัยกุล ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการบินไทย เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2561- ปัจจุบัน
4. นายพงษ์ชัย อมตานนท์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการบินไทยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2562
แหล่งข่าว กล่าวว่าการยื่นลาออกจากกรรมการการบินไทยทั้ง 4 คน อาจเป็นการเปิดทางให้ทางกระทรวงคมนาคม และการบินไทยเปลี่ยนผู้ที่จะเข้ามาเป็นกรรมการใหม่ อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีการพูดถึงการเปลี่ยนกรรมการมาตลอด แต่ยังไม่ได้เปลี่ยน แม้จะมีกรรมการบางคนลาออกไปบ้างแล้ว
ทั้งนี้การยื่นลาออกของกรรมการสามารถยื่นได้ครังละไม่เกิน 4 คน หากเกินกว่านี้จะไม่สามารถดำเนินการประชุมได้เนื่องจากไม่ครบองค์ประชุม
สำหรับการบินไทยขณะนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมากต่อการบริหารธุรกิจ ก่อนหน้านี้การบินไทยเองก็ประสบปัญหาการขาดทุนมาตลอด ยิ่งต้องมาเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ยิ่งทำให้การดำเนิธุรกิจของการบินไทยยากลำบากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) การบินไทย ได้ลงนามในคำสั่งบริษัทที่ 031/2563 เรื่อง “มาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19)” เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์ที่ความต้องการเดินทางลดลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง บริษัทมีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการรองรับวิกฤติการณ์นี้ และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
1.ปรับลดเงินเดือนผู้บริหาร ประกอบด้วย ปรับลดเงินเดือนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) ในอัตรา 25%, ปรับลดเงินเดือนรองกรรมการผู้จัดการผู้อำนวยการใหญ่ (EVP) ในอัตรา 20%, ปรับลดเงินเดือนผู้อำนวยการใหญ่ (VP) หรือ กรรมการผู้จัดการ (MD) ระดับผู้อำนวยการใหญ่ในอัตรา15%
2. ลดค่าพาหนะเหมาจ่ายของผู้บริหารตามตำแหน่ง ดังนี้ ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปรับลดเหมาจ่ายในอัตรา 30%, ระดับผู้อำนวยการใหญ่ หรือ กรรมการผู้จัดการ ระดับผู้อำนวยการใหญ่ ปรับลดในอัตรา 20%
3. ปรับลดงบประมาณสำหรับการเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานลง 30% ยกเว้นพนักงานที่ปฏิบัติงานบนเครื่องบิน โดยให้รองกรรมการผู้จัดการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ กรรมการผู้จัดการต้นสังกัด ควบคุมการส่งพนักงานไปปฏิบัติหน้าที่เท่าที่จำเป็นต่อบริษัทเท่านั้น รวมถึงปรับลดจำนวนพนักงานที่จะส่งไปปฏิบัติหน้าที่และจำนวนวันในการปฏิบัติหน้าที่
4. ให้ทุกหน่วยงานบริหารจัดการกำลังพล ไม่ให้เกิดการทำงานล่วงเวลา หากมีข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานให้รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ต้นสังกัดเป็นผู้พิจารณาเป็นกรณีไป
5. ปรับลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานภายนอก (Outsource) ให้เหลือเท่าที่จำเป็น ให้สอดคล้องกับปริมาณงานที่ลดลง ทั้งนี้ในภาพรวมของแต่ละหน่วย ต้องปรับลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานภายนอกลงไม่น้อยกว่า 20%
6. ปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการ และความปลอดภัยให้เหลือเท่าที่จำเป็น เช่น ชอะลอการจ้างบุคลากร ชะลอการลงทุน ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้าง ลดวัสดุอุปกรณ์สิ้นเปลือง ชะลอการแจกเครื่องแบบพนักงาน และลดการเบิกครุภัณฑ์
7. ให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ระดับผู้อำนวยการไหญ่ ของพนักงานที่จะเกษียณอายุในวันที่ 30 กันยายน 2563 ตกลงกับพนักงานที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชา เพื่อร่วมกันกำหนดการใช้วันลาหยุดพักผ่อนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมดก่อนวันเกษียอายุ
- เปิดมาตรการลดค่าใช้จ่ายสู้โควิดฉบับเต็มของ ‘การบินไทย’
- เริ่มไม่ไหว! ‘บางกอกแอร์เวย์ส’ ตัดเงินเดือนผู้บริหาร 50% ลดสวัสดิการพนักงาน
- ‘บินไทย’ หั่นผลตอบแทนผู้บริหาร 6 เดือน ลดผลกระทบไวรัสโควิด-19
- ‘สายการบิน’ นับถอยหลังสู่วิกฤติสภาพคล่อง ยื่น 5 ข้อเสนอให้รัฐต่อลมหายใจ