กีคคอน วัลเล่ย์ เดินหน้าจับมือ พาย ดาต้าเมทริกซ์ จากอังกฤษ เร่งเครื่องรุกตลาดธุรกิจเสิร์ช เอนจิ้น มอบหมายไทยเป็นฐานลุยตลาดเสิร์ช เอนจิ้น ในภูมิภาคเอเชีย เล็งขยายตลาด อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ จีน เวียดนาม และสิงคโปร์ปีนี้
ดร.ฐิติมา อุดม ประธานกรรมการ บริษัท กีคคอน วัลเล่ย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท กีคคอน วัลเล่ย์ จำกัด ได้เปิดดำเนินการทำธุรกิจด้านสืบค้นข้อมูล (Search Engine) มากว่า 3 ปี ส่วนบริษัทพาย ดาต้าเมทริกซ์ ได้ดำเนินธุรกิจด้านเสิร์ช เอนจิ้น ที่ประเทศอังกฤษมากว่า 13 ปี แล้ว
ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทได้เข้ามาร่วมทุนกัน เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าวในฐานะพาร์ทเนอร์ร่วมกัน เพียง 2 ปีเท่านั้น โดยในปีที่ผ่านมานั้น กีคคอนฯ สามารถทำรายได้ถึง 40 ล้าน สำหรับปีนี้คาดการณ์ว่าบริษัทฯจะสามารถทำยอดรายได้สูงถึง 80 ล้านบาทในประเทศไทย
จากเม็ดเงินดังกล่าวทำให้บริษัท มียอดเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 1 เท่าตัว หรือคิดเป็น 100 % ซึ่งถือเป็นผลพวงที่ดีอันเนื่องมาจากไข้หวัดโคโรน่า หรือ โควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในหลายประเทศทั่วโลกขณะนี้ ทำให้ผู้บริโภคสินค้าหันมาเลือกซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เปิดตัว SERP Evolution Features เทคโนโลยีอัจฉริยะตัวใหม่ที่รู้เท่าทัน ทุกวิวัฒนาการ ทุกการเปลี่ยนแปลงของการแสดงผล และ การจัดอันดับของ เสิร์ช เอนจิ้น ยุคใหม่ เช่น Google, Baidoo (ประเทศจีน) Yandex (ประเทศรัสเซีย) หรือ Naver (เกาหลี) เพื่อช่วยในการวางแผนให้เว็บไซต์ ก้าวสู่อันดับต้นๆ บนหน้าหนึ่งของ เสิร์ช เอนจิ้น ที่มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกเหนือจากการรุกตลาดในเมืองไทยแล้ว ทางบริษัทพาย ดาต้าเมทริกซ์ ในประเทศอังกฤษ ยังตัดสินใจให้บริษัท กีคคอนฯ เป็นศูนย์กลางธุรกิจด้านเสิร์ช เอนจิ้น ในประเทศเอเชีย ด้วยศักยภาพของผู้บริหารของบริษัทฯที่ต่างมีความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะด้านดิจิทัล แบรนดิ้ง มีเดีย
ปัจจุบันบริษัทได้เข้าไปร่วมทุนกับบริษัทในประเทศอินโดนีเซียแล้ว เพื่อทำธุรกิจด้านนี้โดยตรง และคาดว่าจะสามารถขยายสาขาไปสู่ประเทศเกาหลีใต้ จีน เวียดนาม และสิงคโปร์ภายในสิ้นปีนี้ และจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทในช่วงปีแรกที่เริ่มขยายตลาดไปสู่ 5 ประเทศดังกล่าวด้วยรายได้ 40 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 50 % ของยอดรายได้ทั้งหมดในประเทศไทย ส่วนในปีหน้านั้นตนหวังว่าจะมีการขยายสาขาไปสู่ประเทศต่างๆในเอเชียเพิ่มขึ้น และตั้งเป้าเติบโตอยู่ที่ 100 %เต็มเช่นกัน
ด้านนายวิเลิศ อรวรรณวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กีคคอน วัลเล่ย์ จำกัด กล่าวว่า หลังจาก กีคคอนฯ ได้ร่วมกับบริษัทพาย ดาต้าเมทริกซ์ จากประเทศอังกฤษ ทำธุรกิจด้าน เสิร์ช เอนจิ้นในไทย ทำให้ตลาดธุรกิจในด้านนี้มีความตื่นตัวมากขึ้น ปัจจุบันมีลูกค้าหันมาให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น และคาดว่าปีนี้ทางบริษัทจะสามารถมีลูกค้าอยู่ในภายการดูแลกว่า 30 บริษัทจากที่มี อยู่ 20 บริษัทอย่างแน่นอน
นายจอน เอิร์นชอว์ ผู้บริหารจากบริษัท พาย ดาต้าเมทริกซ์ จากประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้สร้างยอดขายและรายได้ให้กับลูกค้าในเชิงการตลาดมากมาย ซึ่งลูกค้ามีหลากหลายประเภท ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะมีสินค้าประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการที่เว็ปเพจของสื่อสิ่งพิมพ์ดังกล่าวสามารถก้าวขึ้นสู่หน้า 1 กูเกิ้ลตลอดเวลา อาทิ นิตยสารโว้ค, นิตยสารจีคิว,นิตยสารแอล และ นิตยสารท่องเที่ยวอย่างคอนนีดาส เป็นต้น
ปัจจุบัน ธุรกิจเสิร์ช เอนจิ้น มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น Google Algorithm เปลี่ยนเกือบทุกอาทิตย์ และมีการปรับใหญ่ปีละ 4-5 ครั้ง วิธีการจัดแสดงผลของ Google ว่าจะนำเว็ปไซด์หน้าใดมาแสดงเวลาลูกค้าค้นหา (Search Engine Result Pages หรือ SERP) ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น เราต้องค้นหา เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาใช้ในการวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ ใน 3 ปัจจัย คือ 1. Customers การวิเคราะห์ลูกค้าว่ามีต้องการพยายามค้นหาอะไร โดยจากการค้นหาของลูกค้าที่ผ่านมา 2. Google and SERP Ecosystem การวิเคราะห์ Google ว่ามีหลักการจัดแสดงผลโดยผสมผสานปัจจัยอะไรที่ Google ได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องจากการค้นหาของลูกค้าในอดีต และ 3. Online Landscape ต้องเข้าใจให้ลึกถึงโครงข่ายการค้นหาของลูกค้าในโลกออนไลน์ว่ามีการเชื่อมโยงกันอย่างไร ทั้งใน Search Engine และ Social Media ต่างๆ
“จาดปัจจัยทั้ง 3 นี้ เราสามารถทำการวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำโดยใช้ SERP Evolution Features ของ Pi Datemetrics ซึ่งมีพัฒนาการล้ำหน้า รู้ทัน Google ทุกการเปลี่ยนแปลง”นายเอิร์นชอว์กล่าว
เทคโนโลยี่อัจฉริยะ SERP Evolution Features เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลกของ Pi Datametrics ซึ่งเป็นเครื่องมืออัจฉริยะที่ช่วยให้การวางแผนให้เว็บไซต์ ก้าวสู่อันดับต้นๆ ในหน้าแรกของ เสิร์ช เอนจิ้น ทุกชนิดทั่วโลก ซึ่ง บริษัทกีคคอน วัลเล่ย์ จำกัด ในประเทศไทย ได้รับลิขสิทธิ์ให้เป็นผู้แทนในการให้บริการกับทุกประเทศในภาคพื้นเอเซีย
