ผู้ผลิตปืนเก่าแก่สุดของสหรัฐ “เรมิงตัน” ยื่นฟ้องล้มละลายในเดลาแวร์ หลังยอดขายปืนเมื่อปีที่แล้วร่วงลงไปมากกว่า 30%
หลังจากที่ทำธุรกิจมานานถึง 202 ปี ในที่สุด ผู้ผลิตปืนเก่าแก่สุดของสหรัฐ “เรมิงตัน” ก็ตัดสินใจยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินภายใต้กฎหมายล้มละลายมาตรา 11
เว็บไซต์ของศาลล้มละลายสหรัฐ ในเมืองเดลาแวร์ โพสต์เรื่องการยื่นคำร้องดังกล่าวของเรมิงตัน อาร์มส์ คัมพานี และบริษัทแม่ “เรมิงตัน เอาท์ดอร์ส” เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 มี.ค.) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี ในจดหมายที่ส่งถึงนักลงทุนเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) บริษัทระบุว่า มีกระแสเงินหมุนเวียน นับถึงปลายเดือนมีนาคม ติดลบอยู่ราว 7.4 ล้านดอลลาร์
เรมิงตัน เอาท์ดอร์ส ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทผลิตปืนรายอื่นๆ จำนวนหนึ่ง รวมถึง มาร์ลิน และบุชมาสเตอร์ ระบุด้วยว่า บริษัทมียอดขายในปี 2560 สูงกว่าระดับ 600 ล้านดอลลาร์เล็กน้อย ลดลงจากปี 2559 มากกว่า 30%
เรมิงตันตกอยู่ในสถานะเดียวกับผู้ผลิตปืนรายอื่นๆ ที่มียอดขายดิ่งลงอย่างมาก หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในปี 2559 เพราะบรรดาลูกค้า มองว่า ไม่ใช่เรื่องด่วนที่จะต้องรีบมีอาวุธไว้ในครอบครองภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ผู้ผลิตปืนรายนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องภาระหนี้จำนวนมหาศาล รวมถึง ความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ในเรื่องความปลอดภัยของสินค้าที่เป็นซิกเนเจอร์ของบริษัท อย่าง ปืนเล็กยาว Model 700
แม้บริษัทจะยืนยันว่าปืนมีความปลอดภัย แต่เรมิงตันก็ยินยอมที่จะเปลี่ยนไกให้กับปืนหลายล้านกระบอก ผ่านการเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งบริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดว่า การยื่นฟ้องล้มละลายนี้ จะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงดังกล่าวหรือไม่
ทั้งนี้ เรมิงตัน มีเซอร์เบรัส กองทุนหุ้นเอกชน เป็นเจ้าของอยู่ หลังจากนี้กองทุนนี้เริ่มต้นกว้านซื้อบริษัทปืนมาตั้งแต่เมื่อทศวรรษที่แล้ว
อย่างไรก็ดี หลังจากเหตุสังหารหมู่ที่โรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุค ในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนตทิคัต เมื่อปี 2555 เซอร์เบรัสก็ประกาศแผนที่จะออกจากธุรกิจปืน แต่ก็หาผู้มาซื้อกิจการธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้
