General

ยืนยันไทยยังไม่เข้าสู่การระบาด ‘ไวรัสโควิด19’ ระยะที่ 3

“รองโฆษกรัฐบาล” ยืนยันไทยยังไม่เข้าสู่การระบาดของ “ไวรัสโควิด 19” ระยะที่ 3 วอนประชาชนที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง มีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในไทยยังอยู่ระยะที่ 2 ไม่มีผู้ป่วยรายใดเป็น Super Spreader รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขยังเฝ้าระวังและยกระดับการคัดกรอง พร้อมเร่งทำงานเชิงรุก โดยคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ประกาศกำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย อันดับที่ 14 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพื่อให้อำนาจตามกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจและสอบสวนโรค ยกระดับการคัดกรอง ขยายประเทศเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง และกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การตรวจพบทำได้เร็วยิ่งขึ้น

ไตรศุลี301631

สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานตัวเลขเปิดเผย ตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงทางการแพทย์ นับตั้งแต่มีการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทยรายแรกนอกประเทศจีน และมีมาตรการคัดกรองตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม เป็นต้นมา ซึ่งมาตรการการป้องกันของไทยยังได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศ

“วอนขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยพิจารณาอย่างรอบด้าน อย่าเห็นประโยชน์จากโปรโมชั่นท่องเที่ยวราคาถูกในขณะนี้ ขอให้เลื่อนหรืองดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดของโรคในช่วงนี้ หากจำเป็นต้องเดินทางไปก็ให้ปฏิบัติตนด้วยความระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เมื่อกลับมาให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์พร้อมเปิดเผยประวัติการเดินทาง สำหรับประชาชนในประเทศก็ต้องไม่ลืม “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่อยู่เสมอ พร้อมให้ความมั่นใจว่า ไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมโรคได้ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก แต่เราจะต้องไม่ประมาท และจะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคน”

นอกจากนี้ยังมีวิธีป้องกันเชื้อไวรัสจากการอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ประกอบด้วย

1. งดเข้าร่วมกิจกรรมหากมีอาการป่วยของโรคระบบทางเดินหายใจ
2. จัดเตรียมหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือสำหรับใช้เองให้เพียงพอ
3. หากสังเกตเห็นผู้ร่วมกิจกรรมมีอาการไอ ไข้ จาม มีน้ำมูก ควรแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดพยาบาลแต่ละแห่ง
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้มีอาการป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจที่ไม่ป้องกันตัวเอง

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK