General

รพ.บี.แคร์ฯ ยันพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 แจงเหตุผู้ป่วยปกปิดข้อมูล

รพ.บี.แคร์ฯ ยันพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 มารับรักษา เป็นชายไทย 1 ราย ส่งรักษารพ.รัฐแล้ว พร้อมส่งบุคลากรเกี่ยวข้องตรวจ 30 คน ย้ำสาเหตุคนไข้ปกปิดข้อมูล วอนแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ  ก่อนสร้างความเสียหาย

87397502 3207250889289873 8612804253469114368 o e1582691674458

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID -19 โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ได้พบผู้ป่วยชายไทย มาด้วยอาการ ไข้ ไอ ผู้ป่วยปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ เบื้องต้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ และให้รักษาตัวในโรงพยาบาล

และเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์แพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ได้เข้าตรวจอาการผู้ป่วย และสอบถามประวัติการเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง ผู้ป่วยปฏิเสธ และช่วงสาย ผู้ป่วยได้เปิดเผยประวัติว่าได้เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง

เมื่อผู้ป่วยแจ้งประวัติ โรงพยาบาลฯได้ติดต่อสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม.) ซึ่งได้ระบุว่าผู้ปวยรายนี้เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ( Patient Under Investigation ) และย้ายผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในห้องความดันลบ( Negative Pressure Room ) และส่งตรวจPCR for COVID-19 ทันที

ช่วงค่ำของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผลตรวจ PCR เบื้องต้น พบเชื้อ COVID-19 ( Detected ) โรงพยาบาลบี.แคร์ ได้แจ้ง สปคม. ทันที ปัจจุบันผู้ป่วยได้รับการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

87889085 3207250989289863 7863748522389012480 o e1582691723779

จากการที่ผู้ป่วยปกปิด และปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ส่งผลให้บุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯในกลุ่มที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 30 คน ซึ่งโรงพยาบาลฯร่วมกับสปคม. ได้ดำเนินการดังนี้

1. บุคลากรที่สัมผัสกับผู้ป่วยทุกคน ได้รับการตรวจ PCR for COVID-19 และ ตรวจเลือดเพื่อหา Antibody ของ Virus เบื้องต้น ผลตรวจ PCR for COVID -19 ของบุคลากรทุกคนที่สัมผัสกับผู้ป่วยเป็นลบ คือไม่พบเชื้อไวรัส แต่ยังต้องตรวจซ้ำในช่วงเวลา7-14 วัน

2.ให้บุคลากรดังกล่าวหยุดงาน ( Self quarantine ) สังเกตอาการที่บ้าน และปฏิบัติตามแนวทางของกรมควบคุมโรค

3. ทำการ Deep Clean ด้วยนำ้ยาฆ่าเชื้อโรค และงดรับผู้ป่วยในหอผู้ป่วย

“เบื้องต้น ผลการตรวจ PCR for COVID-19 ของบุคลากรโรงพยาบาลทั้ง 30 คน ตรวจไม่พบเชื้อไวรัส”

ขอความร่วมมือผู้รับบริการทุกท่าน แจ้งประวัติที่เป็นความจริงเพื่อเข้าสู่กระบวนการการคัดกรอง การวินิจฉัย การแยกโรคตามมาตรฐาน ดังนี้

1. หากท่านมีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของกรมควบคุมโรค หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มดังกล่าว ร่วมกับมีอาการไข้ ไอ จาม อ่อนเพลีย ให้แจ้งที่จุดคัดกรองของโรงพยาบาลฯ ซึ่งได้จัดให้มีทุกประตูเข้าออกของโรงพยาบาล

2. โรงพยาบาลฯจะนำท่านไปยังห้องตรวจแยกโรค แรงดันลบ ( Negative Pressure ) ทันที และติดต่อ ประสานสปคม. เพื่อให้ สปคม. พิจารณาว่าเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ( Patient Under Investigation ) หรือไม่

3. หากเข้าเกณฑ์ ท่านจะได้รับการตรวจ PCR for COVID -19 และพักรักษาตัวในห้องความดันลบ ( Negative Pressure )ของโรงพยาบาลฯเพื่อรอผลตรวจซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง

4. หากผลตรวจพบเชื้อ ทาง สปคม. จะดำเนินการรับตัวท่านไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลภาครัฐต่อไป

การปกปิดข้อมูลเป็นผลเสีย มีผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม ต่อผู้อื่น และต่อครอบครัวของท่านเอง

ทั้งนี้ โรงพยาบาลบี.แคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์ ขอยืนยันว่าโรงพยาบาลฯ มีการเฝ้าระวัง และคัดกรองโรคที่เป็นมาตรฐาน และขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก หรือแชร์ข่าวที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสถานการณ์ที่แน่นอนจากโรงพยาบาลฯโดยหากมีความเคลื่อนไหวหรือมีสถานการณ์ใดๆที่ต้องเฝ้าระวังโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ

ทั้งนี้ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 กรณีดังกล่าว มีการโพสต์บอกข้อมูลในโลกโซเชียลว่า เป็นชายไทยอายุ 65 ปี เพิ่งเดินทางกลับจากฮอกไกโด โดยเดินทางป็นกรุ๊ปทัวร์ ตั้งแต่ 16-20 กุมภาพันธ์ โดย Airasia ถึงไทยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ มีอาการไข้ขึ้น และมารักษาที่รพ.บี.แคร์ฯ โดยไม่ยอมบอกว่าเดินทางไปที่ไหน จนกระทั่งวันที่ 24 ถึงยอมแจ้งรพ. และภรรยาก็พบเชื้อเป็นบวกเช่นกัน

โดยมีหลาน 2 คน 8 ขวบ กับ 3 ขวบอยู่ด้วยกัน ซึ่งไม่ได้ไปญี่ปุ่นด้วย ตรวจผลเป็นบวกในเด็ก 8 ขวบ ซึ่งหลานไป รร. มาแล้ว 1 วันเต็ม ที่รร.พระหฤทัยคอนแวนต์ ดอนเมือง และต่อเนื่องไปถึงพ่อของหลาน ซึ่งทำงานธนาคารธนชาต โดยธนาคารสั่งสาขาปิดไปแล้ว

สำหรับพนักงาน บุคลากร รพ. ที่ดูแลคนไข้ดังกล่าวในช่วงแรก 30 คน ขณะนี้ได้ทำการตรวจหาเชื้อทั้งหมด ปัจจุบันกำลังติดตามคนที่นั่ง Air asia พร้อมกันกับกรุ๊ปฮอกไกโด ขณะนี้ชายไทยดังกล่าว ได้ย้ายไปรักษาที่รพ.โรคทรวงอก ส่วนภรรยาและหลานรักษาที่ รพ.บำราศนราดูร

Avatar photo