Politics

‘ศักดิ์สยาม’ แจงยิบรายละเอียด ‘ไฮสปีดเชื่อม3สนามบิน’ ยันไม่เอื้อเอกชน

“ศักดิ์สยาม” แจงยิบรายละเอียด “ไฮสปีดเชื่อม3สนามบิน” ยันไม่เอื้อเอกชน การเจรจาร่างสัญญาอยู่ในกรอบอัยการสูงสุด

5ด14กห32ด1ห

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงเรื่องโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า  ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์เอกชนรายใดทั้งสิ้น การทำสัญญาไม่เอื้อเอกชน

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และบริษัทเอกชนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการเอื้อให้กับบริษัทเอกชนรายใดบริษัทหนึ่ง เพราะมีเอกชนซื้อเอกสารการคัดเลือก (RFP) ถึง 31 ราย เป็นการพิจารณาคัดเลือกเอกชนโดยอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ประเทศ และขอรับเงินสนับสนุนน้อยที่สุด

ส่วนรูปแบบการประมูลแบบมัดรวม ไม่แยกการพัฒนาโครงสร้างกับการพัฒนาที่ดินเข้านั้น นายศักดิ์สยามชี้แจงว่า เป็นการนำเอาศักยภาพของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อลดภาระงบประมาณเงินสนับสนุนของภาครัฐ

Sequence 01.00 10 52 02.Still010

ส่วนที่มีข้อกล่าวหาที่ว่าการเซ็นสัญญาล่าช้า มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการส่งมอบที่ดิน มีการส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนเพิ่มมากขึ้นกว่าที่กำหนดใน RFP นั้น นายศักดิ์สยามชี้แจงว่า เพราะ RFP ได้กำหนดไว้ว่า ให้ส่งมอบพื้นที่มากกว่า 50% หลังจากเจรจากับเอกชน เพื่อให้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เสร็จตามนโยบายรัฐบาล และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สามารถดำเนินการส่งมอบพื้นที่ได้ จึงได้กำหนดสัดส่วนการส่งมอบพื้นที่ประมาณ 70% ของที่ดินทั้งหมดจะตกเป็นของแผ่นดิน โดยให้เอกชนขนส่งมอบพื้นที่กลับหลังก่อสร้างเสร็จ

สำหรับข้ออภิปรายที่ว่า มีการลดค่าปรับ เอื้อสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นในการเปลี่ยนแนว ทำ Spur line / สิทธิ First Right นั้น นายศักดิ์สยามชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเป็นการพิจารณาค่าปรับให้สอดคล้องตามสัดส่วนงานที่เอกชนรับไปดำเนินงาน ซึ่งอัยการสูงสุดได้ตรวจพิจารณาเห็นชอบแล้ว

S 15925408
                                                           แฟ้มภาพ

สำหรับการย้ายสถานีหรือ Spur line / สิทธิ First Right ได้กำหนดหลักการไว้ใน RFP และมติคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ที่อนุมัติ ไม่มีข้อใดขัดกับหลักการ เอกชนเปลี่ยนตำแหน่งสถานีได้ เพื่อประโยชน์และตามความเห็นชอบของการรถไฟฯ เท่านั้น

“ขณะนี้โครงการ  EEC เดินหน้าไปได้ 3 โครงการ คือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา และโครงการที่ท่าเรือแหลมฉบัง สิ่งที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ดำเนินการต่อไปคือ ให้สภาพัฒน์ฯ ศึกษาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และที่สำคัญคือเขตเศรษฐกิจภาคใต้ ทั้ง 5 เขตเศรษฐกิจ ที่นายกรัฐมนตรี ตั้งใจจะทำให้เกิดขึ้นในประเทศไทยทำให้มีการพัฒนาความเจริญทั้งประเทศ เนื่องจากเราเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ผมเคยถามท่านว่า ใช้เวลาก่อสร้างหลายปี เราจะได้ใช้หรือ ท่านตอบกลับมาว่า คุณทำไปเถิด ผมต้องการทำสิ่งเหล่านี้ให้ประเทศไทย พวกเราต้องทำให้กับคนไทยทุกคน ให้มีความเจริญก้าวหน้าและมีชีวิตที่ดีมากขึ้น”นายศักดิ์สยามกล่าว

Avatar photo