วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) – นักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ประธานของบริษัท Berkshire Hathaway ได้ เขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นบริษัทในปี 2020 ซึ่งมีหลายประเด็นน่าสนใจเป็นอย่างมาก เราเลยอยาก สรุปออกมาเป็น 10 ข้อคิด มาฝากกัน
1. ดูตัวเลขผลการดำเนินงาน ไม่ใช่ราคาหุ้น
เป็นปีที่ บัฟเฟตต์ ย้ำอยู่เสมอว่าให้ วิเคราะห์ธุรกิจด้วยกำไรจากการดำเนินงานเป็นหลัก ไม่ใช่มองแต่ราคาหุ้น แม้มาตรฐานบัญชีใหม่จะทำให้เขาต้องบันทึกกำไรขาดทุนของหุ้นที่ลงทุนอยู่ในงบด้วยก็ตาม
ทั้งนี้ ในปี 2019 Berkshire Hathaway มีรายได้ 8.14 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีกำไร 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
2. ถือเงินสดในมือสูงถึง 1.28 แสนล้านดอลลาร์
ปี 2019 เป็นปีประวัติศาสตร์ของ Berkshire Hathaway ก็ว่าได้ เนื่องจากมีการซื้อหุ้นคืนมากที่สุด คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์ เพราะฉะนั้น จึงส่งผลต่อ เงินสดที่ล้นมือบัฟเฟตต์ พุ่งมากถึง 1.28 แสนล้านดอลลาร์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
3. เชื่อในพลังดอกเบี้ยทบต้น มากกว่าเงินปันผล
บัฟเฟตต์ กล่าวว่า แทนที่ได้กำไรมาแล้วจะจ่ายเงินปันผลออกไป เราควรเลือกที่นำเงินนั้นมาลงทุนต่อกับธุรกิจจะดีกว่า เพื่อ สร้างผลตอบแทนทบต้น สะสมกำไรไปเรื่อยๆ เห็นได้จากปีที่ผ่านมา Berkshire Hathaway ไม่มีการจ่ายเงินปันผลเลย
4. กำไรที่ได้รับให้กลับไปลงทุนต่อ
ต่อจากข้อที่แล้ว เขาย้ำว่าการที่ นำกำไรไปลงทุนต่อเนื่อง สามารถทำให้บริษัทเติบโต และสร้างกำไรที่เพิ่มมากขึ้น อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ Berkshire Hathaway จะให้ความสำคัญนั่นเอง
5. ลงทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ
ในจดหมายได้มีการเอ่ยถึงเทคนิคลงทุนให้ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบัน บัฟเฟตต์ ตอบว่าขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ได้แก่
- ผลตอบแทนที่ดีจากการดำเนินงาน
- ทีมผู้บริหารที่ทั้งเก่งและมีความซื่อสัตย์
- ราคาต้องสมเหตุสมผล
6. ซื้อกิจการ = การแต่งงาน
การเข้าซื้อกิจการก็เหมือนกับการแต่งงาน คือ ช่วงแรกกำลังหวานชีวิตคู่มีความสุขมากๆ แต่ผ่านไปสักพักสิ่งที่คาดหวัง อาจไม่เหมือนกับความเป็นจริง ก็เหมือนกับการซื้อกิจการสักอย่างที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้กันยาวๆ ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยน เข้าหากัน
7. ประกันภัย ธุรกิจเด่นปีนี้ (ลำดับที่ 1)
สำหรับปีนี้ บัฟเฟตต์ ยกให้ “ประกันภัย” เป็นหนึ่งในธุรกิจดาวเด่น เหตุผลที่ชอบเพราะ ธุรกิจประกันเป็นธุรกิจที่รับค่าประกันเลย ทำให้ได้เงินจากลูกค้าล่วงหน้าก่อนธุรกิจอื่น แล้วค่อยจ่ายเงินค่าชดเชยในภายหลัง
นอกจากนั้น ธุรกิจประกันมี Business Model น่าสนใจ คือ สามารถมีเงินไปต่อยอดการลงทุนได้ โดยในปี 2019 มีเงินส่วนนี้มากถึง 1.29 แสนล้านดอลลาร์ แต่ข้อควรระวังก็มีเช่นกัน อย่าเช่นผลตอบแทนในภาพรวมที่อาจไม่ได้สูงมาก ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2 – 3% เท่านั้น เพราะส่วนใหญ่นำไปลงทุนในพันธบัตรที่มีความน่าเชื่อถือสูง
8. พลังงาน ธุรกิจเด่นปีนี้ (ลำดับที่ 2)
อุตสาหกรรมอีกกลุ่มที่เขาชื่นชอบในช่วงนี้ คือ พลังงาน เพราะอนาคตพลังงานจะเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และให้ผลตอบแทนที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว
9. ดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไหร่ ไม่ใช่สิ่งสำคัญขนาดนั้น
“การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย ไม่ใช่กลยุทธ์ที่เราทำ” บัฟเฟตต์ กล่าวว่า เขาไม่สนใจหรอกว่าในอีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้า ดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไหร่
เพราะในเมื่ออัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับปัจจุบัน คือต่ำไปเรื่อยๆ ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้น ก็ยังชนะพันธบัตรอยู่แล้ว แน่นอนว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์หุ้นร่วงรุนแรงได้ แต่ไม่ใช่เรื่องที่เกิดบ่อยๆ และถึงตลาดตกหนักจริง ก็ไม่ได้มีผลต่อนักลงทุนระยะยาวที่ใช้เงินเย็นมาลงทุน
10. วอร์เรน บัฟเฟตต์ พร้อมส่งไม้ต่อ
ปัจจุบัน บัฟเฟตต์ อายุเข้า 89 ปีแล้ว ทำให้เขายอมรับว่ากำลังอยู่ในช่วงส่งไม้ต่อ Berkshire Hathaway ให้ผู้บริหารใหม่เข้ามาช่วยดูแล
อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าแม้ตัวเองจะไม่อยู่ แต่บริษัทก็จะยังเดินหน้าต่อไปได้แบบมั่นคง ด้วยเหตุผล 5 ประการ ได้แก่
- บริษัทวางรากฐานมั่นคงไว้แล้ว
- สถานะการเงินที่แข็งแรง
- Berkshire Hathaway มีอำนาจในการตัดสินใจนโยบายของบริษัทที่ลงทุน
- ทีมผู้บริหารระดับคุณภาพ
- วัฒนธรรมการดูแลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวทิ้งท้ายแบบคมๆ ว่า “99% ของความมั่งคั่งทั้งหมดของผมอยู่ในหุ้น Berkshire ฉะนั้น จึงไม่เหตุผลเลยที่ผมจะขายหุ้นบริษัททิ้งแม้แต่ตัวเดียว”
อ่านจดหมายที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เขียนถึงผู้ถือหุ้น Berkshire Hathaway ฉบับเต็มได้ที่