หุ้น KTC บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีเรื่องให้ชวนติดตามอยู่พอสมควร หลังเป็นหุ้นที่เติบโตต่อเนื่องมานานหลายปี แต่ปีที่ผ่านมา KTC ก็เจอบททดสอบครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีใหม่ มาตรการชำระหนี้สินของธนาคารแห่งประเทศไทย และ กำลังซื้อคนในประเทศที่ยังกดดันยอดใช้บัตรเครดิต
ดังนั้น 2563 จึงน่าจะเป็นอีกปีที่ท้าทายของบริษัทเป็นอย่างมาก ว่าพวกเขาจะสามารถผ่านบททดสอบสำคัญนี้ไปได้หรือไม่ วันนี้เราจึงมี สรุปมุมมองธุรกิจ และประเด็นน่าสนใจของหุ้น KTC จากงาน Opportunity Day มาฝาก
1. สรุปภาพรวมธุรกิจ 2562
KTC มีธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกัน
โดยโครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจาก บัตรเครดิต 60% และสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกัน 40% ทำให้มี รายได้รวมปี 2562 อยู่ที่ 18,979 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,524 ล้านบาท
2. ธุรกิจบัตรเครดิต
ปีที่ผ่านมาพอร์ต บัตรเครดิต KTC โต 10.8% คิดเป็นมูลค่า 56,653 ล้านบาท ขณะที่ จำนวนบัตรเครดิตอยู่ที่ 2.51 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 5.2%
ส่วนตัวเลข market share อยู่ที่ 10.6% ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่ได้ 10.8% ปัจจุบันสัดส่วนฐานลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต KTC ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/เดือน
3. ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล
พอร์ตสินเชื่อส่วนบุคคล KTC โต 0.9% คิดเป็นมูลค่า 28,933 ล้านบาท โดยมี Market share ที่ 5.5% ลดลงจากเดิมที่ได้ 7.1% ซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการปรับเกณฑ์มาตรการสินเชื่อของแบงก์ชาติ
4. มาตรฐานบัญชีใหม่
จากการที่มีการกำหนดให้ใช้ มาตรฐานการบัญชีใหม่ IFRS9 โดย การปรับปรุงหลักการ และ วิธีการทางบัญชี สำหรับเครื่องมือทางการเงิน เพื่อให้สะท้อนความเสี่ยงของกิจการมากยิ่งขึ้น
เรื่องนี้ KTC ระบุว่า อาจได้เห็น NPL เพิ่มขึ้นในทุกไตรมาส ซึ่งเป็นไปตามการคำนวณของมาตรฐานบัญชีฯ แต่ มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับกำไร เพราะพื้นฐานธุรกิจยังเหมือนเดิม เพียงแต่การรายงานตัวเลขเปลี่ยนไปเท่านั้น
5. แผนกลยุทธ์ปี 2563
บริษัทจะเน้น การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย การหาสมาชิกใหม่ที่มีความต้องการสินเชื่อ และ รักษาฐานสมาชิกเดิม ให้มีความผูกพันยิ่งขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรใหม่อีก 320,000 ใบ
นอกจากนี้ KTC มีแผนขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นเพื่อ ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท โดยจะใช้เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิม และนำไปใช้รองรับการขยายธุรกิจใหม่
6. เตรียมเปิด 3 ธุรกิจใหม่
ในปีนี้ KTC มีแผนจะขยายไปยัง 3 ธุรกิจใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าจะทำ กำไรเติบโตก้าวกระโดดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ได้แก่
1. นาโนไฟแนนซ์
2. พิโกไฟแนนซ์
3. สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ภายใต้ชื่อ “KTC พี่เบิ้ม”
7. เป้าหมายปี 2563
– กำไรของบริษัท คาดว่ายังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง แต่อาจไม่ถึง 15%
– ตั้งเป้ายอดขอสินเชื่อส่วนบุคคลใหม่จะเติบโต 10% หรือจะมียอด 210,000 ล้านบาท
– มั่นใจว่ายอดการใช้บัตรจะเพิ่มขึ้น แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอการเติบโต
– ตั้งเป้ารักษาหนี้เสีย (NPL) ไว้ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1%
สุดท้ายต้องบอกว่าช่วงนี้แรงดึงดูดหุ้น KTC อาจจะน้อยลงไปพอสมควร แต่หากจำกันได้ KTC เคยเจอวิกฤตประมาณนี้มาครั้งหนึ่งตอนปี 2561 ที่มีมาตรการณ์คุมสินเชื่อลดวงเงินบัตรเครดิต แต่พวกเขาก็ผ่านมาได้ จากงบการเงินที่แทบไม่สะเทือนแม้แต่น้อย อย่างไรก็ดี ต้องดูว่าครั้งนี้ KTC จะทำได้เหมือนเดิมไหม
