รถนำเที่ยวอินบาวด์วิกฤตหนัก ปิดตัวแล้วกว่า 10 ราย หลังนักท่องเที่ยวหดหาย คาดถ้าสถานการณ์ยังไม่ฟื้น จะเห็นปิดกิจการเพิ่มหลายสิบราย ชงรัฐกระตุ้นข้าราชการเกษียณอายุเที่ยวฟรี ดันองค์กรท้องถิ่นสัมมนาในประเทศ
นายจิระเดช ห้วยหงษ์ทอง นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วประเทศ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างหนักนั้้น ล่าสุดในส่วนของธุรกิจรถนำเที่ยวอินบาวด์ หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้รับผลกระทบถึงขั้นปิดกิจการไปแล้วกว่า 10 ราย จากสมาชิกสมาคมฯกว่า 1,000 ราย
“ปัญหารถนำเที่ยวสะสมมาตั้งแต่นักท่องเที่ยวจีนทะยอยลดลงในปี 2562 ที่ผ่านมา และซ้ำเติมด้วยไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจนปิดตัวไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เน้นนักท่องเที่ยวจีน 100% แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นหรือควบคุมไม่ได้ จะเห็นการปิดกิจการของผู้ประกอบการรถนำเที่ยวอีกหลายสิบรายแน่นอนในปีนี้”
ทั้งนี้เนื่องจาก สถานการณ์แพร่ระบาดเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนเท่านั้นที่หยุดท่องเที่ยว แต่ส่งผลถึงนักท่องเที่ยวในตลาดอื่นๆ ที่ลดการเดินทางลง เช่น เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เนื่องจากขาดความเชื่อมั่น และรัฐบาลแต่ละประเทศไม่อยากให้ประชาชนออกนอกประเทศ เพราะกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสกลับมาในประเทศ
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่ยังเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรัสเซียและยุโรป แต่จำนวนกรุ๊ปจะน้อยลง จากเดิมที่เคยมา 30-40 คน จะเหลือ 10 กว่าคน เพราะคนที่ยังมาอยู่คือคนที่เชื่อมั่นว่าสาธารณสุขไทยดูแลได้ดี และส่วนใหญ่จะเลือกท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวที่คนจีนไม่ไป ยุโรปจะเลือกไป เช่น การท่องเที่ยวแหล่งประวัติศาสตร์อย่างพิษณุโลก สุโขทัย เป็นต้น
สำหรับภาพรวมธุรกิจรถนำเที่ยวในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้รับผลกระทบแล้วถึง 95% ในแง่ของปริมาณงานที่ลดลง และเริ่มเห็นการให้หยุดงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับผลกระทบก่อน เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา โดยขณะนี้เห็นการให้หยุดงานโดยไม่จ่ายค่าแรงแล้วประมาณ 2,000 คน จากจำนวนแรงงานในธุรกิจนี้อยู่ที่ 1 หมื่นคน
“สถานการณ์ครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี เพราะเกิดขึ้นทั่วโลก และเดือนหน้าจะหนักกว่าเดือนนี้ เนื่องจากไม่มียอดจองรถนำเที่ยวเข้ามาเลย ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะสายการบินหยุดบิน ทำให้นักท่องเที่ยวมาไม่ได้ และการห้ามออกนอกประเทศของหลายประเทศ”
อย่างไรก็ตาม มองว่า หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว จะทำให้ทุกประเทศเริ่มต้นเร่งฟื้นตัวกันในเดือนพฤษภาคม ซึ่งในระยะแรกจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศก่อน ทำให้ยังไม่มีการเดินทางเที่ยวนอกประเทศมากนัก จนกระทั่งเดือนสิงหาคมไปแล้ว คาดว่านักท่องเที่ยวจะเริ่มเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องเลื่อนการเดินทางในช่วงตรุษจีน สงกรานต์ ซึ่งมีจำนวนมาก หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว อาจทำให้รับมือได้ยาก โดยเฉพาะการบริหารจัดการ
อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทางสมาคมฯจึงได้นำเสนอ 12 มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถนำเที่ยว ผ่านสภาอุตสาหกรรมฝ่ายการท่องเที่ยว โดยมีเรื่องเร่งด่วน 2 เรื่องที่อยากให้ดำเนินการก่อนเพราะเชื่อว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้เร็ว ด้วยการสนับสนุนให้ข้าราชการวัยเกษียณเที่ยวฟรีด้วยงบ 1,000 บาท ลักษณะคล้ายชิม ช้อป ใช้ หรือ หากเกินกว่า 1,000 บาท รัฐบาลควรออกเงินให้ 50%เป็นต้น เพราะกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว
อีกเรื่องเร่งด่วนคือ การมอบนโยบายให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. หันมาจัดอบรมดูงาน สัมมนา ในประเทศแทน และงดใช้งบดังกล่าวเพื่อไปต่างประเทศ เนื่องจากงบประมาณในส่วนนี้ คาดว่าปีละไม่ต่ำกว่า 800-1,000 ล้านบาท จึงควรนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศและกระจายรายได้ให้เข้าสู่ชุมชน ซึ่งจะทำให้เกิดการจับจ่ายและเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
