ดัชนีแนสแด็ก ของสหรัฐ เปิดตลาดร่วงหนัก จากการที่หุ้นเฟซบุ๊กนำทีมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเดินสู่ขาลง แต่ดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับอียูผ่อนคลายลง หลัง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะมีการเจรจาในเรื่องการจัดเก็บภาษี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ของสหรัฐ เปิดซื้อขายในวันนี้ (26 ก.ค.) ปรับขึ้น 152.15 จุด หรือ 0.60% มาอยู่ที่ 25,566.25 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 7.85 จุด หรือ 0.28% ที่ 2,838.22 จุด และดัชนีเแนสแด็กดิ่งลง 90.06 จุด หรือ 1.14% ที่ 7,842.18 จุด
ราคาหุ้นเฟซบุ๊ก ยักษ์ใหญ่สื่อสังคมออนไลน์ ดิ่งลงไปถึง 18.4% กลายเป็นมูลค่าที่หายไปภายใน 1 วันมากสุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากที่บริษัทระบุว่า ส่วนต่างผลกำไรอาจดิ่งลงต่อเนื่องหลายปี เพราะค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบป้องกันความเป็นส่วนตัวของสมาชิก และภาวะชะลอตัวของผู้ใช้งานตลาดโฆษณาของบริษัท
สถานการณ์ของเฟซบุ๊ก ยังทำให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างหนัก โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลงไป 1.3% อัลฟาเบต บริษัทแม่กูเกิล ลดลง 0.8% อเมซอน ที่มีกำหนดรายงานผลประกอบการหลังปิดตลาด ร่วงลง 2.1% และหุ้นแอ๊ปเปิ้ลแทบไม่มีการเคลื่อนไหว
การเทขายดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะบดบังมุมมองด้านบวกของตลาด ในเรื่องที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เห็นพ้องที่จะระงับการเสนอเก็บภาษีทุ่มตลาดต่อรถยนต์นำเข้าจากสหภาพยุโรป (อียู) ไว้ก่อน และ 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันเพื่อกำจัดภาษีศุลกากรในสินค้าอุตสาหกรรม
