เปิดประเด็นศึกซักฟอก 6 รัฐมนตรีรัฐบาลบิ๊กตู่ “พล.อ.ประยุทธ์” หนักสุด!! เจอซักฟอกละเอียดยิบ ฝ่ายค้านจัดเต็ม 2 วัน
เปิดประเด็นศึกซักฟอกรายบุคคล 6 รัฐมนตรีรัฐบาล “บิ๊กตู่” เริ่มตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่คุณสมบัติและความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่ง อาทิ
- การเข้าทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ทั้งที่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วน
- ขาดภาวะผู้นำ ลุแก่อำนาจ
- ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง
- บริหารประเทศผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง
- แทรกแซงข้าราชการ กระบวนการยุติธรรม บังคับใช้กม.โดยเลือกปฏิบัติ
- จงใจใช้อำนาจขัดต่อรธน.ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
- ไม่รักษาวินัยการเงินการคลัง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ฝ่ายค้านบอกว่าจะไม่คุยเรื่อง “แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน” แล้ว ประเด็นที่จะเน้น อาทิ
- ทุจริตต่อหน้าที่
- แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง
- มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
- ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธร
รมอย่างร้ายแรง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
- ตีความกฎหมายเอื้อประโยชน์พวกพ้องจนเป็นเรื่องของอภินิหาร
- ก้าวก่าย แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
- ชี้นำการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกกล่าวหาประเด็น
- บริหารประเทศผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง
- กลั่นแกล้ง ก้าวก่าย แทรกแซงข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต
- จงใจใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถูกตั้งประเด็นอภิปรายกล่าวหา อาทิ
- บริหารประเทศผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง
- แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เอื้อประโยชน์ให้บริษัทข้ามชาติ
- ใช้อำนาจก้าวก่าย แทรกแซงข้าราชการเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะถูกอภิปรายในประเด็นร้อน อาทิ
- บริหารประเทศผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง
- ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามเป็นรัฐมนตรี
- เข้าสู่ตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
- ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ปกป้องพวกพ้องโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ชาติ
อย่างไรก็ตาม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า วิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลได้ตกลงกรอบเวลาการอภิปรายเรียบร้อยแล้วว่า จะอภิปรายตั้งแต่วันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ และลงมติในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ในส่วนรัฐมนตรีและฝ่ายรัฐบาล จะได้เวลาอภิปรายรวมทั้งหมด 10 ชั่วโมง รวมเวลาที่มีการประท้วงด้วย ส่วนเวลาที่เหลือเป็นของฝ่ายค้าน เพื่อให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างเต็มที่ ส่วนตัวผู้อภิปรายของฝ่ายค้านเท่าที่ตกลงกัน แต่ละคนจะได้เวลาอภิปรายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระที่จะอภิปราย
ทั้งนี้ ผู้อภิปรายที่ได้เวลาสูงสุดคือ 1.30 –2 ชั่วโมง อาทิ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ การอภิปรายครั้งนี้จะพุ่งเป้าตรงไปที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดในการบริหารประเทศในหลายเรื่อง ซึ่งจะถูกอภิปรายคนเดียวนานถึง 2 วัน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ไปจนถึงเวลา 13.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ส่วนครี่งวันหลังของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ไปจนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์จะอภิปราย 5 รัฐมนตรีที่เหลือ