World News

ดีเบทราคาแพง ‘นาทีละ 35 ล้านดอลล์’ ของ ‘ไมเคิล บลูมเบิร์ก’

เพียง 10 สัปดาห์หลังประกาศความตั้งใจ ลงชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐนั้น “ไมเคิล บลูมเบิร์ก” ใช้เงินหาเสียงไปแล้วมากถึง 464 ล้านดอลลาร์

GettyImages 1201952720

ระหว่างการดีเบท เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ ที่ถือเป็นการเปิดตัวครั้งสำคัญของบลูมเบิร์กเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา(19 ก.พ.) นักวิเคราะห์มองว่า เขาทำผลงานได้ไม่ค่อยดี ค่อนข้างน่าเบื่อ  แถมยังเป็นบุคคลที่ใช้เงินในการหาเสียงมากที่สุดในเวที แต่ได้พูดน้อยที่สุด ด้วยเวลาเพียง 13 นาที กับอีก 6 วินาที

ซีเอ็นเอ็นได้วิเคราะห์เม็ดเงินที่เขาใช้ในการหาเสียง เพื่อที่จะได้มาปรากฎตัวบนเวทีดีเบท พบว่า เมื่อนำเงินจำนวน 464 ล้านดอลลาร์ มาหารกับเวลาพูดที่ 13.6 นาที หรือ 786 วินาทีแล้ว จะตกเป็นเงินสูงถึง 590,330.78 ดอลลาร์ต่อวินาที หรือ 35,419,847 ดอลลาร์ต่อนาที

อย่างไรก็ดี เรื่องที่ถือว่า “บ้าคลั่ง” สำหรับบลูมเบิร์กนั้น อยู่ตรงที่ว่า ความสำเร็จของเขาไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับผลงานในการดีเบทเลย ซึ่งแตกต่างจาก “ทอม สเตเยอร์” มหาเศรษฐี คู่แข่งในการชิงตำแหน่งของเขา ที่ทำโฆษณา เพื่อให้ได้ขึ้นมาบนเวทีนี้

ความนิยมที่บลูมเบิร์กได้จากการหาเสียงที่ผ่านมา คือ การใช้เงินที่เขามีอยู่มากมาย เพื่อให้ได้ไปปรากฎตัวบนแพลตฟอร์มที่เขาเลือกเอง ส่งสารตามที่เขาต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสื่อที่ต้องจ่ายเงินค่าสมาชิก มากกว่าจะเป็นสื่อแบบดั้งเดิม

แน่นอนว่า วิธีการดังกล่าวจะทำให้บลูมเบิร์กต้องเจอกับคำถามที่ยากกว่าการขึ้นเวทีดีเบท แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้เขาสามารถรับมือกับคำถามต่างๆ เกี่ยวกับประวัติอื้อฉาวของตัวเอง ทั้งเรื่องที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการแสดงความเห็นไปในทางการเหยียดเพศ หรือเรื่องความมั่งคั่งของเขาได้ดีขึ้นเช่นกัน

อันที่จริงแล้ว บลูมเบิร์กไม่จำเป็นต้องขึ้นเวทีดีเบท เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ประชันกับคู่แข่ง โดยเขาสร้างฐานคะแนนเสียงของเขาขึ้นมาด้วยตัวเอง และไม่ได้ดำเนินการระดมทุนแต่อย่างใด ซึ่งช่วยให้คณะกรรมการเดโมแครต ยกเลิกข้อกำหนดเรื่องผู้บริจาคไปได้ เปิดทางให้เขาได้ขึ้นเวทีดีเบทดังกล่าว

และแม้ว่า เขาจะทำผลงานได้ไม่ดีนักบนเวทีนี้ แต่ทีมงานหาเสียงของเขาที่จ้างมาแพง ก็ไม่พลาดที่จะตัดคลิปวีดิโอนี้ออกมา ในแบบที่ทำให้เขาดูดี เหนือกว่าคู่แข่ง

Avatar photo