ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.พ.) ไร้ทิศทางชัดเจน โดยที่ดัชนีนิกเคอิ พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก แรงหนุนจากการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลดลง และความหวังว่าจีนจะออกมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่ความกังวลเรื่องผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ ยังกดดันบางตลาดอยู่
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 23,682.93 จุด ทะยานขึ้นมา 282.23 จุด หรือ 1.21% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ที่ 27,571.66 จุด ลดลง 84.15 จุด หรือ 0.30% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ที่ 2,982.59 จุด ปรับขึ้น 7.19 จุด หรือ 0.24% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 3,201.09 จุด ลดลง 12.62 จุด หรือ 0.39%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดซื้อขายเมื่อคืนนนี้ (19 ก.พ.) ที่ 29,348.03 จุด เพิ่มขึ้น 115.84 จุด หรือ 0.40% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,386.15 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด หรือ 0.47% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 9,817.18 จุด เพิ่มขึ้น 84.44 จุด หรือ 0.87%
วันนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Loan Prime Rate (LPR) ประเภท 1 ปีลง 0.10% สู่ระดับ 4.05% สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ และลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลง 0.05% สู่ระดับ 4.75%
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ทั้ง 2 ประเภทมีขึ้นในช่วงเวลาที่จีนกำลังรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
การเคลื่อนไหวข้างต้น ยังเกิดขึ้นหลังจากที่นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือเป็นความไม่แน่นอนที่กำลังส่งแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกมากที่สุด
นางจอร์จีวากล่าวว่า ไวรัสดังกล่าวจะชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ โดยระดับความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับการที่ผู้นำของโลกจะร่วมมือกันควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีเพียงใด
