ม.ล.อยุทธ์ ไชยันต์ เลขานุการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือTMB แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ธนาคารได้ตกลงที่จะขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด ในสัดส่วน 65% ให้แก่ บริษัท พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย จำกัด (PCAL) รวมทั้งตกลงที่จะขายหุ้นในส่วนที่เหลือทั้งหมดอีก 35% ในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อเข้าเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ อีสท์สปริง อินเวสต์เมนทส์ (สิงคโปร์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ PCAL ถือหุ้นอยู่ทั้งหมดโดยทางอ้อม
อย่างไรก็ตาม บลจ.ทหารไทย จะยังคงเป็นหนึ่งในบลจ. ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีคุณภาพ ให้กับลูกค้าของธนาคารร่วมกับบลจ.อื่นๆ ตามปกติ ซึ่งการเข้าเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับอีสท์สปริง ที่ได้รับรางวัล เอเชีย ฟันด์ เฮ้าส์ แห่งปี จากเอเชียนอินเวสเตอร์ จะช่วยเพิ่มศักยภาพของ บลจ.ทหารไทย และยังเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์การขายกองทุนแบบเปิด ให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าธนาคารได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน จากธนาคารแห่งสหรัฐอเมริกาเมอริลล์ ลินช์ และธนาคารไอเอ็นจี และที่ปรึกษาทางกฎหมายจากบริษัท อัลเลน แอนด์ โอเวอรี่ ร่วมให้ความเห็นในการกำหนดเงื่อนไข และข้อตกลงต่างๆ ตลอดการเจรจาสัญญา
จ่อซื้อหุ้น100% ในอนาคต
ทั้งนี้ อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ในเอเชีย บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อหุ้นในเบื้องต้น 65% ในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จํากัด (บลจ. ทหารไทย) ผู้ให้บริการด้านการบริหารสินทรัพย์ชั้นนําในไทย จากธนาคารทหารไทย
ทั้งนี้ อีสท์สปริงมีสิทธิในการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเป็น 100% ได้ในอนาคต
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ อีสท์สปริง ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรด้านการจัดจําหน่ายกับธนาคารทหารไทยในการส่งมอบบริการด้านการลงทุนชั้นแนวหน้าแก่ลูกค้า
ซื้อกิจการบลจ.ทหารไทยใหญ่อันดับ5
การเข้าซื้อกิจการบลจ. ทหารไทย เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ในไทย มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 10,000 ล้านปอนด์ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี 26% ในช่วงระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ช่วยตอกย้่ำความมุ่งมั่นของพรูเดนเชียล ที่มีต่อประเทศไทย และยังมีส่วนช่วยเสริมธุรกิจประกันชีวิตของพรูเด็นเชียล ที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และยังเป็นการเอื้อโอกาสแก่อีสท์สปริงในการเข้าดําเนินธุรกิจในตลาดที่ใหญ่ที่สุด และเติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน
ในการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารทหารไทย ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ในด้านสินทรัพย์ มีสาขาครอบคลุมกว่า 400 สาขา และลูกค้ากว่า 6 ล้านรายนั้น อีสท์สปริงจะช่วยส่งเสริมการเติบโตด้านสินทรัพย์ของบลจ. ทหารไทยให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก
รากฐานสำคัญเหล่านี้เอื้อให้อยู่ในสถานะอันดีในการสร้างโอกาสการเติบโตของตลาดกองทุนรวมในไทย ที่มีความน่าสนใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของชนชั้นกลาง ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น วัฒนธรรมการเก็บออมที่มีความแข็งแกร่ง และอัตราการเข้าถึงบริการกองทุนรวมที่ยังค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดที่พัฒนาแล้ว พรูเด็นเชียลรุกตลาดกองทุนรวมในไทย เข้าซื้อกิจการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย และร่วมมือเป็นพันธมิตรด้านการจัดจําหน่ายกับธนาคารทหารไทย
ชี้เอเชียฟันเฟืองสำคัญของพรูเด็นเชียล
นายนิค นิแคนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชัน เอเชีย กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนความเติบโตให้แก่พรูเด็นเชียล และการเร่งสร้างความเติบโตให้แก่ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมสถานะแข็งแกร่งให้แก่พรูเด็นเชียลในไทย และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนที่เติบโตอย่างรวดเร็วของลูกค้าในภูมิภาคนี้
เชื่อช่วยเสริมธุรกิจให้แข็งแกร่ง
ขณะที่นายกาย สแตร๊ปป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ กล่าวว่า ข้อตกลงในครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของเราในภูมิภาคเอเชีย โดยอีสท์สปริงมีความพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมสถานะทางการตลาด และศักยภาพด้านการจําหน่ายอันแข็งแกร่งของธนาคารทหารไทย
“เรามองเห็นโอกาสอันดีของการเติบโตในไทย และข้อตกลงในครั้งนี้ ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการร่วมกันพัฒนา และนําเสนอบริการด้านการลงทุนชั้นแนวหน้าในตลาดกองทุนรวมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในไทย”
ด้านนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย แสดงความเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมมือกับอีสท์สปริงในครั้งนี้ จะทำให้สามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าธนาคารได้ดียิ่งขึ้น