เปิดให้บริการแพลตฟอร์มคอนเทนต์ออนไลน์มานาน 5 ปีในประเทศไทย วันนี้ LINE (ไลน์) พร้อมประกาศความสำเร็จที่ผ่านมา และก้าวต่อไปที่มุ่งไกลไปทั่วอาเซียน
ในงาน “LINE NEXPLOSION 2020” ที่ไลน์จัดมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งครั้งนี้ ไลน์ตัดคำว่า TV ออกไป เนื่องจากเห็นว่า ไลน์ ไมได้จำกัดอยู่เฉพาะทีวีเท่านั้น แต่พร้อมเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์ออนไลน์ที่หลากหลาย และพร้อมจะอยู่ในทุกช่วงเวลาของผู้คนตลอด 24 ชม.
ไฮไลต์สำคัญของไลน์นับจากนี้คือ LINE TV, LINE TODAY และแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2562 ที่ผ่านมา
ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไลน์จะตอกย้ำวิสัยทัศน์ “Life on LINE” โดยปัจจุบันไลน์ ยังคงครองแชมป์การเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยเป็นอันดับหนึ่ง ตอบทุกโจทย์ความต้องการของผู้ชมทุกเพศทุกวัย
สำหรับปี 2563 นี้ ถือเป็นทศวรรษใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และเป็นครั้งแรกในการแถลงวิสัยทัศน์ของธุรกิจคอนเทนต์ของไลน์ ประเทศไทย ทั้ง LINE TV และ LINE TODAY ซึ่งไลน์จะพัฒนาและยกระดับคุณภาพและบริการด้านคอนเทนต์ให้ตอบทุกโจทย์และความสนใจของผู้ใช้งานยุคใหม่ ที่เติบโตและมีไลฟ์สไตล์บนโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง
นายกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไลน์วางเป้าหมายธุรกิจคอนเทนต์ปี 2563-2565 หรือใน 3 ปีจากนี้ ที่จะก้าวขึ้นสู่ การเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลอันดับหนึ่งสำหรับการให้บริการคอนเทนต์ออนไลน์คุณภาพ เพื่อความบันเทิงที่ครบครัน โดยมุ่งเน้นคุณภาพและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
“ไลน์พบพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ของคนดูรูปแบบใหม่ นั่นคือ Missing Out “Now” is My Option [MONMO] คือการที่ผู้บริโภคในปัจจุบันจริงๆ แล้วไม่ต้องการพลาดคอนเทนต์ดังๆ และเป็นกระแส แต่ต้องการเป็นผู้เลือกด้วยตัวเองว่า จะเสพคอนเทนต์ที่สนใจตอนนั้นทันทีหรือไม่ เมื่อไร อย่างไร”นายกณพกล่าว
จากแนวโน้มนี้เอง ที่ทำให่บริการจากทั้ง LINE TV และ LINE TODAY ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกบริหารความต้องการของตนเองได้อย่างสะดวกสบาย
ขณะที่แผนงานของ LINE TODAY นั้น มีเป้าหมายจะเป็น Personalized Infotainment Portal หรือ ศูนย์รวมข่าวสารและบทความที่มีสาระประโยชน์และความเพลิดเพลินจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และเสิร์ฟเนื้อหาแบบมีความเฉพาะเจาะจงกับแต่ละบุคคล โดยนำเทคโนโลยี เอไอเฉพาะของไลน์มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเลือกอ่านคอนเทนต์ตรงตามความชอบของผู้อ่านแต่ละคนมากขึ้น
ปัจจุบัน LINE TODAY จัดเป็นคอนเทนต์พอร์ทัลอันดับ 1 ของไทย ที่มีพาร์ทเนอร์คอนเทนต์ที่เป็นสื่อและสำนักพิมพ์ชั้นนำทั้งออนไลน์และออฟไลน์กว่า 260 ราย และสามารถเข้าถึงผู้อ่านบนแพลตฟอร์ม LINE ได้ถึง 45 ล้านคนทั่วประเทศ โดยมีสถิตที่น่าสนใจตามกราฟฟิกด้านล่าง
ภายในปีนี้ LINE TODAY จะปรับเปลี่ยนดีไซน์ของ User Experience (UX) และอินเตอร์เฟซ (UI) ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สามารถสนองต่อการใช้งานที่ง่าย และดีกว่าเดิม เหมาะกับพฤติกรรมการอ่านคอนเทนต์ของผู้ใช้งาน และจะมีการแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในแต่ละวัน ให้เป็น Personalized Infotainment Portal อย่างแท้จริง
ในส่วนของ LINE TV ยังคงเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอคอนเทนต์ไทยอันดับหนึ่ง โดยปีที่ผ่านมามีผู้เข้าใช้มากกว่า 40 ล้านราย เฉลี่ยรวมถึง 176 นาทีต่อวัน โดย 3 ช่วงเวลาที่มีการรับชมสูงสุด ได้แก่ ช่วง 12.00 – 14.00 น ระหว่างพักกลางวัน, ช่วง 15.00 – 18.00 น ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนหรือเลิกงาน และขณะเดินทางกลับบ้าน โดยเฉพาะช่วง 20.00 – 22.00 น. เวลาครอบครัว
นอกจากนี้ยังพบว่า มีการรับชมผ่านจอใหญ่สูงขึ้นมาก และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยเติบโต 63% ทุกเดือนต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยการรับชมผ่านจอใหญ่ ทำให้ผู้ใช้งานใช้เวลาโดยเฉลี่ยต่อคนมากเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับการดูผ่านโทรศัพท์มือถือหรือผ่านเว็บบราวเซอร์
ก้าวต่อไป LINE TV คือ การเป็น Everyday Enjoyment Hub หรือศูนย์รวมแห่งความเพลิดเพลินในทุกๆ วัน โดยจะตั้งเป้าขยายกลุ่มผู้ชมให้ครอบคลุมกลุ่มไลฟ์สไตล์คนเมืองที่กำลังเติบโตขึ้นทั่วประเทศ ด้วยการพัฒนาคอนเทนต์ให้ถูกใจ ตรงความต้องการ และเพิ่มความหลากหลายของประเภทคอนเทนต์ อาทิ แอนิเมชั่น ซิทคอม รายการไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากขึ้น
LINE TV จะเพิ่มพันธมิตรทั้งผุ้ประกอบการแบรนด์สมาร์ทโฟน รวมถึงผู้ผลิตและแบรนด์ทีวี เพื่อติดตั้งไลน์ทีวีจากโรงงานผลิต ซึ่งจะส่งผลให้ขยายฐานผู้ชมกลุ่มใหม่ๆได้เพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญ คือการมุ่งขยายตลาดไปยังประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งเสริมคอนเทนต์และผู้ผลิตของไทยในตลาดสากล
ด้าน ออริจินัล คอนเทนต์ใหม่ทั้ง 6 เรื่องที่จะนำเสนอผ่าน LINE TV ในปีนี้ ได้แก่ 1. Motherเรียกฉันว่า…แม่ 2. เป็นต่อ Uncแensored สำมะเล เพลย์บอย 3. วิน 21 เด็ดใจเธอ 4. BKPP The Series (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) 5.The Graduate และ 6. The Secret เกมรัก เกมลับ
นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายการพาณิชย์ กล่าวถึงธุรกิจโฆษณาออนไลน์ว่า ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์มียอดการใช้จ่ายโฆษณาที่ขยายตัวอย่างมาก ในส่วนของ LINE TV มีมูลค่าการลงโฆษณาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสะสม 67% ต่อปี และส่วนของ LINE TODAY เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ที่ยอดเฉลี่ยสะสมเพิ่มขึ้นสูงถึง 150% ต่อปี
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงโฆษณาสูงสุดบน LINE TV ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มความงามและสุขภาพ รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มียอดการเติบโตสูงสุดในการลงโฆษณา ได้แก่ อีคอมเมิร์ซ ตามมาด้วยกลุ่มมีเดียและความบันเทิง และกลุ่มประกันภัย
สำหรับ LINE TODAY ในปีที่ผ่านมา มียอดการเข้าถึงผู้อ่านชาวไทยเกินครึ่งประเทศ ด้วยอัตราการคลิกสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ถึง 100% และมีสถิติการใช้เวลาบนแพลตฟอร์มสูงกว่าปกติ 200% และสามารถทำให้เกิดอัตราการตั้งใจซื้อจากผู้ชม (Intention to buy) ถึง 60%
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงโฆษณาสูงสุดบน LINE Today ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร และกลุ่มอีคอมเมิร์ซ ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มียอดการเติบโตสูงสุดในการลงโฆษณา ได้แก่ องค์กรภาครัฐและพลังงาน ตามมาด้วยกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
กลยุทธ์สำคัญสำหรับบิสิเนสโซลูชั่นในส่วนบริการโฆษณานั้น LINE TV จะเป็นการมุ่งเน้นการสร้าง “Quality Reach” เพื่อช่วยให้นักการตลาดสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น ขณะที่ LINE TODAY จะมุ่งเน้นการสร้าง “Quality Impact” เพื่อตอกย้ำการเป็น “พอร์ทัลออนไลน์สำหรับการอ่านข่าวสารและบทความคุณภาพอันดับหนึ่งของไทย
ล่าสุด ไลน์ยังได้เปิดตัวโซลูชั่นการโฆษณา “Story Linked” ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ LINE ได้ตรงความต้องการของนักโฆษณาและผู้ชมทั้งสองฝ่าย ซึ่งจากการทดสอบแล้วพบว่าช่วยเพิ่มยอดการดูโฆษณาจนจบมากขึ้นเป็น 2.5 เท่า และเพิ่มอัตราการคลิกได้มากถึง 80%
รูปแบบของโฆษณา Story Linked จะมีลักษณะคล้าย Sequential Ads ที่มีการแบ่งโฆษณาเป็นลำดับตอน ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มส่วนร่วมในการรับชมโฆษณา (Engagement) บน LINE TV และ LINE TODAY จากผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ไลน์ยังจับมือพันธมิตรใหม่ 2 ราย ได้แก่ วีจีไอ และ บีเอ็มเอ็น เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้นและตอบโจทย์นักโฆษณาที่ใช้บริการบนแพลตฟอร์มของ LINE ให้มีการเชื่อมโยงของออนไลน์และออฟไลน์ (OMO) ได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังร่วมมือกับ นีลเส็น ประเทศไทย เปิดตัว “LINE Reach Curv”’ เครื่องมือที่จะช่วยให้แบรนด์หรือนักการตลาดสามารถวางแผนการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE ให้เหมาะสมกับงบประมาณเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
