สหรัฐยืนยันพบพลเมืองอเมริกัน ผู้โดยสารเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ที่เดินทางกลับมายังบ้านเกิดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จำนวน 14 คน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงในวันนี้ (17 ก.พ.)ว่า ระหว่างกระบวนการพาผู้โดยสารขึ้นจากเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ซึ่งถูกกักโรคอยู่ที่ท่าเรือโยโกฮามา ของญี่ปุ่นนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐได้รับแจ้งว่า ผู้โดยสารอเมริกัน 14 ราย ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19
หลังปรึกษากับกระทรวงสาธารณสุข และบริการมนุษย์แล้ว กระทรวงการต่างประเทศได้ตัดสินใจที่จะอนุญาตให้ทั้ง 14 คน เดินทางกลับมาด้วย โดยได้ดำเนินการแยกออกจากผู้โดยสารคนอื่น
เที่ยวบินดังกล่าว เดินทางมาถึงสหรัฐ ในช่วงเช้าตรู่วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยผู้โดยสารทุกคนจะถูกกักโรคไว้นาน 14 วัน
“ผู้โดยสารทั้ง 14 คน และคนอื่นๆ ที่แสดงอาการของโรคระหว่างการบิน จะยังถูกกักตัวไว้บนเครื่อง ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังสถานที่เหมาะสม เพื่อการกักโรค และรักษาต่อไป”
วันเดียวกันนี้ สถานทูตรัสเซีย ในญี่ปุ่น โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของทางสถานทูต ระบุว่า พลเมืองรัสเซีย ที่เป็นผู้โดยสารเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเธอจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาต่อไป
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หญิงสาวรายนี้ เป็นพลเมืองรัสเซียคนแรกที่ติดเชื้อไวรัส หลังจากที่ผู้ติดเชื้อ 2 คนก่อนหน้านี้ในรัสเซีย เป็นชาวจีนทั้งคู่
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสัน ของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลจะส่งเครื่องบินเข้าไปอพยพพลเมืองออสเตรเลียมากกว่า 200 คน ที่เป็นผู้โดยสารของเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) และจะรับชาวนิวซีแลนด์ ที่อยู่บนเรือลำดังกล่าวกลับมาด้วย
การเคลื่อนไหวต่างๆ ข้างต้น เกิดขึ้นหลังผลตรวจแสดงให้เห็นว่า มีผู้โดยสาร และลูกเรือบนเรือสำราญลำนี้ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 350 คน
