Branding

‘แฮปปี้กรุ๊ป’ ลุย ‘ออมนิชาแนล’ ชิงทีวีโฮมช้อปปิ้ง 1.4 หมื่นล้าน

จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจทีวี โฮม ช้อปปิ้ง ที่ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมทะยานแตะ 14,000 ล้านบาทในปี 2562 และคาดว่าในปี 2563 จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การเติบโตของตลาด ทีวี โฮม ช้อปปิ้ง เป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นสั่งซื้อสินค้า ทีวี โฮม ช้อปปิ้ง มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าคุณภาพ ราคาเหมาะสม จัดส่งถึงบ้าน และสามารถจ่ายเงินเมื่อได้รับสินค้า หรือที่เรียกว่า COD (Cash on Delivery) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในตอนนี้

นางสาวอภิรวี พิชญเดชะ ซ้าย กรรมการผู้จัดการ

จากแนวโน้มที่สดใสนี้เอง ทำให้ “อภิรวี พิชญเดชะ” ที่มีประสบการณ์ในวงการดิจิทัล ทีวี รวมถึง ทีวี โฮม ช้อปปิ้ง และ “ธนพงษ์ ไชยลาโภ” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตคอนเทนต์ และการออกอากาศ ตัดสินใจก่อตั้ง  แฮปปี้ ช้อปปิ้ง (Happy Shopping) ขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง และร่วมวงชิงตลาดดังกล่าว

นางสาวอภิรวี พิชญเดชะ กรรมการผู้จัดการ แฮปปี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า การสร้างธุรกิจโฮมช้อปปิ้งที่ใช้หลัก “Customer Centric” เป็นจุดยืน เพื่อตอบสนองในสิ่งที่ตลาดยังมีช่องโหว่ และนำเสนอสิ่งที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง โดย Happy Shopping เลือกโฟกัสกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอยู่จำนวนมากในสังคมและกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ยังพบว่า คนกลุ่มเบบี้ บูมเมอร์ และเจนเอ็กซ์ เป็นกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้าคุณภาพดี และมีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวสอดรับกับฐานผู้ชมทีวีดิจิทัลช่อง Nation 22 ด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิดรูปแบบการตลาด “ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกลุ่มเป้าหมาย” สามารถยึดใจลูกค้าปัจจุบันซึ่งมีมากกว่า 100,000 ราย และสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา Happy Shopping ปิดยอดอยู่ที่ 185 ล้านบาท หลังจากทำการตลาดเพียง 7 เดือนเท่านั้น

แฮปปี้ช้อปปิ้ง

ขณะเดียวกัน Happy Shopping ยังสร้างจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดด้วยการเน้นสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ทั้ง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย “Happy Life+” สำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และบิวตี้ “Thai Wisdom by Happy” ซึ่งเป็นสินค้าภูมิปัญญาไทยและส่งเสริมสินค้าโอท็อป และ “Happy Experience” บริการท่องเที่ยวแปลกใหม่แบบมีคอนเซ็ปต์ทุกเส้นทาง และมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเส้นทางเดินทางไปพร้อมกัน

สำหรับแผนการตลาดในปี 2563 นี้ จะเดินหน้ากลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าที่ยั่งยืน โดยยึดกลยุทธ์ “เลือกสินค้าให้แม่น เจาะกลุ่มที่ใช่” คำนึงถึงการนำเสนอสินค้าคุณภาพให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่เน้นสินค้าแมสที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่ต้องเป็นสินค้าและบริการที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของวัยและมีการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเพื่อสุขภาพประเภทอาหารเสริมเป็นหลัก

ส่วนการพัฒนารูปแบบการตลาดและการขายนั้น จะเดินหน้ารุกทำตลาดทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ หรือ ออมนิชาแนล โดยวางสัดส่วนออฟไลน์ 80% ออนไลน์ 10% และ เอาท์บาวด์ 10% จากเดิมที่เน้นออฟไลน์เป็นหลักถึง 90% โดยในส่วนของตลาดออฟไลน์ จะเพิ่มพันธมิตรธุรกิจทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น อย่าง ONE31 ไทยรัฐทีวี 32 และ อมรินทร์ทีวี 34 นอกเหนือจากช่อง Nation22 ที่มีอยู่เดิม ควบคู่กับการโทรหาลูกค้าโดยตรงซึ่งเป็นการใช้ฐานลูกค้ามากกว่าแสนรายที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สินค้า

ในส่วนของออนไลน์จะมุ่งทำตลาดครอบคลุม ทั้งการนำเสนอผ่านเว็บไซต์บริษัท www.happyshopping2you.com  โดยวางเป้าหมายจำนวนสินค้าบนเว็บไซต์ มากกว่า 2,000 รายการภายในปีนี้ รวมทั้งสื่อสารผ่านเว็บไซต์ข่าวในเครือเนชั่นทั้งหมดและให้ความสำคัญกับโซเชียล คอมเมิร์ซ มากขึ้นผ่าเฟซบุ๊ก และ ไลน์ รวมถึงมุ่งกระจายสินค้าและบริการไปยังช่องทางมาร์เก็ตเพลซยอดนิยม เช่น Shopee และ Lazada

ความมุ่งมั่นที่จะรุกช่องทางการขายแบบออมนิชาแนล และการพัฒนาคัดสรรสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10 สินค้าต่อเดือน รวมถึงความพร้อมของทีมงานทำให้ Happy Shopping เชื่อมั่นว่าในปีนี้จะเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยวางเป้าหมายยอดขาย 530 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 186% และคาดว่าจะมียอดการเติบโตของลูกค้ากว่า 200%

Avatar photo