Business

‘อีคอมเมิร์ซ’ หนุนแพคเกจจิ้งโต ‘เอสซีจีฯ’ ชูโซลูชั่นสร้างความต่าง

เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ชูโมเดล แพคเกจจิ้ง โซลูชั่น สร้างความต่าง ตั้งเป้ารักษาตำแหน่งผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาค พร้อมเดินหน้าขยายกำลังการผลิตในอาเซียน

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่ารวมกว่า 5.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ซึ่งคาดว่าในช่วง 6 ปี หรือ ปี 2561-2567 จะเติบโตเฉลี่ยต่อปีละ 6.1% หรือมีมูลค่าตลาด บรรจุภัณฑ์รวมอยู่ที่ 7.27 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567

AAA 2265

ทั้งนี้ มีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีรายได้ระดับปานกลางในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งส่งผลดีต่ออัตราการบริโภคต่อหัวของประชากรในภูมิภาคนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างมาก และถือเป็นเมกะเทรนด์ ในภูมิภาคอาเซียน

ดังนั้น เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จึงมุ่งขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาค โดยการนำรูปแบบที่ประสบอความสำเร็จแล้วของบริษัทฯ ไปใช้ในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยใช้กระบวนการบูรณาการทั้งในแนวตั้งและแนวนอนเพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้า และมีส่วนร่วมกับลูกค้าในด้านต่าง ๆ ตลอดถึงการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเร่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วย

แผนการลงทุนนับจากนี้ ได้วางโครงการขยายกำลังการผลิตมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7,600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปี 2563 และยังมีการพิจารณาการควบรวมอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้

AAA 2158

ขณะเดียวกัน เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ยังได้กำหนดวิสัยทัศน์ และเป้าหมายที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าและผู้บริโภค ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุสินค้า บรรจุภัณฑ์สำหรับแสดงสินค้า บรรจุภัณฑ์สำหรับการขนส่ง ตลอดจนการบรรจุภัณฑ์ในการเป็นเครื่องมือส่งเสริมทางการตลาด

ปัจจุบัน เอสซีจี แพคเกจจิ้ง มีฐานการผลิตและตลาดหลักในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบรรษัทข้ามชาติ และบริษัทชั้นนำในระดับประเทศและภูมิภาคที่มีการประกอบธุรกิจที่มั่นคงในอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ซึ่งอยู่ในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ เป็นต้น

ขณะที่แผนธุรกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ จะนำโมเดล แพคเกจจิ้ง โซลูชั่น (Packaging Solutions) มาใช้เพื่อสร้างความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน และสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในลูกค้าแต่ละราย

SCGP group photo

สำหรับโซลูชั่นของ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ประกอบด้วย 6 รูปแบบ ได้แก่

(1) โซลูชันสำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Solutions) เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

(2) โซลูชันสำหรับงานย่อย (Small Lot Solutions) เพื่อตอบโจทย์การขายสินค้าปลีก

(3) โซลูชันเพื่ออำนวยความสะดวก (Convenience Solutions) ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น Shelf Ready Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อความสะดวกในการนำสินค้าจัดเรียงบนชั้นวาง

(4) โซลูชันบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart and Functional Solutions) เพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติมากกว่าการบรรจุและป้องกันสินค้า

CHRPw8rUYAA2o8W

(5) โซลูชันสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Solutions) สามารถให้บริการแก่ลูกค้าธุรกิจทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่ ที่จำหน่ายสินค้าทางออนไลน์

(6) โซลูชันด้านกิจกรรมทางการตลาด (Marketing Event Solutions) บริการพิเศษเพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการออกแบบงานเอ็กซิบิชั่นหรืองานแสดงสินค้า

นายวิชาญ กล่าวว่า เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ยังได้พัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิต การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้อย่างเหมาะสม ความสามารถในการเข้าถึงตลาด และการสร้างความไว้วางใจของลูกค้าและผู้บริโภคผ่านแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเน้นการพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ส่งผลให้ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร รวมถึงอยู่ระหว่างยื่นขอรับความคุ้มครองในไทยและต่างประเทศอีกกว่า 60 รายการ

Avatar photo