General

ศาลสั่งจำคุก ‘สมเกียรติ-อัญชะลี’ ไม่รอลงอาญาคดีบุก NBT

ศาลสั่งจำคุก “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” 2 ปี “อัญชะลี ไพรีรัก” 1 ปี โดยไม่รอลงอาญาในคดีบุก NBT

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.1033/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก อดีตแกนนำ พธม. นายภูวดล ทรงประเสริฐ อดีตแกนนำ พธม. นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที อดีตแกนนำพธม. และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ร่วมกันเป็นจำเลย ที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกมั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ ซ่องโจรฯ

ศาลอาญา

โดยคำฟ้องระบุว่า กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 22 -25 สิงหาคม 2551 จำเลยกับพวก ร่วมกันประชุมวางแผน ระดมคนจำนวนมากมีอาวุธปืนและมีด จากสะพานมัฆวานรังสรรค์ แล้วทำลายทุบประตูทางเข้าบุกรุกเข้าสนง.วิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศ ไทย ถ.วิภาวดีฯ ทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้าตู้ระบบควบคุมไฟฟ้า โทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิดฯ จนเสียหายใช้การไม่ได้ รวมค่าเสียหาย 612,198 บาท ขอให้ลงโทษตาม ป.อาญา 210,215,364,365,358 และ 390

วันนี้จำเลยทั้งหมดที่ได้รับการประกันตัวเดินทางมาฟังคำพิพากษาครบทุกคน และมีกลุ่มคนเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

น.ส.อัญชะลี เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทักทายสื่อมวลชน และให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นฟังการพิจารณาคดีว่า วันนี้มาฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีบุกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบคำพิพากษาของศาล แต่ก็ได้เตรียมหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัวมาด้วย สำหรับคดีนี้กลุ่มของตน 1-5 คนที่จะมาฟังคำพิพากษาในวันนี้เป็นคดีที่อัยการเรียกเพิ่มภายหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ส่วนรายละเอียดในคดีให้ทีมทนายความดำเนินการทั้งหมด ทั้งเอกสาร พยานในการต่อสู้คดี รวมถึงหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัว โดยตนเองไม่มราบถึงรายละเอียด ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตร ก็ได้ติดต่อให้กำลังใจมาตลอด ล่าสุดได้กล่าวกับตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องเกิด เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงได้

ศาลพิจารณาพยานหลักฐานโจทก์จำเลยแล้ว พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงว่าพวกจำเลยซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ มีเป้าหมายยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ต้องการเชื่อมสัญญาณ ASTV โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นแกนนำสั่งการ ส่วนจำเลยที่ 2-5 ไม่ชัดว่าเป็นหัวหน้าสั่งการ จำเลยทั้งห้ามีความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจพนักงาน เจตนามั่วสุมบุกรุก เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาให้ลงโทษบทหนักสุด ฐานบุกรุกในเวลากลางคืน จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-5 เป็นเวลา 1 ปี ไม่รอลงอาญา ยกฟ้องข้อหาซ่องโจร

หลังจากนี้ จำเลยทั้งห้าก็จะรอยื่นประกันตัวสู้คดีชั้นอุทธรณ์ต่อไป

ที่มา : ไทยโพสต์

Avatar photo