Economics

‘คนไทย’ จ่าย 2,500 ล้านบาทใน 3 เดือนสู้ ‘ไวรัสโคโรนา’

“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” เผยคนไทยใช้จ่าย 2,200-2,500 ล้านบาทในการป้องกันและดูแลสุขภาพผ่านการซื้อหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์

จากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ราว 66% จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 1,200 คน มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และ 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองมากขึ้นในช่วงเวลานี้

ภายใต้กรอบเวลา 1-3 เดือน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า คนไทยจะมีการใช้จ่ายในการป้องกันและดูแลสุขภาพผ่านการซื้อหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ คิดเป็นเงินราว 2,200-2,500 ล้านบาท ขณะที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอาจก่อให้เกิดผลทางลบต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยผลกระทบหลักจะอยู่ที่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศผ่านการเลื่อน/ชะลอการเดินทางชั่วคราวคิดเป็นมูลค่าราว 13,100-17,500 ล้านบาท

FB Thai Corona11 02 20

สำหรับผลต่อธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารในภาพรวมยังอยู่ในกรอบจำกัด โดยผู้ประกอบการบางรายอาจมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่บางรายอาจมีรายได้ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคลดความถี่ในการออกนอกบ้าน และซื้อสินค้าต่อครั้งในปริมาณที่มากขึ้น ใช้เวลาเลือกซื้อน้อยลง ขณะเดียวกันก็ซื้ออาหารสำเร็จรูป/ทำอาหารทานที่บ้านมากขึ้น เลือกร้านอาหารที่คนไม่หนาแน่น และบางส่วนหันมาสั่งอาหารที่มีบริการจัดส่งแทนการออกไปทานข้าวนอกบ้านโดยคาดว่าธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารจะสูญเสียรายได้สุทธิราว 900-1,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่า จากความกังวลต่อสถานการณ์ไวรัสโคโรนาในช่วงเวลานี้ ประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อมีวิธีการรักษาโรค/วัคซีนป้องกันโรค มีมาตรการป้องกันที่สร้างความเชื่อมั่นจากภาครัฐ การไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็น 3 สถานการณ์ที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้น้ำหนักมากที่สุด

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK