Politics

ขอให้เข้าใจ!! ‘บิ๊กตู่’ ยันให้ ‘เรือสำราญ’ จอดเทียบท่าไม่ได้

“นายกรัฐมนตรี” วอนเข้าใจ! ยืนยันให้ “เรือสำราญ” จอดเทียบท่าแหลมฉบังไม่ได้ แต่พร้อมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมกำชับ “รมว.พาณิชย์” เรื่องหน้ากากอนามัย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เรือสำราญ “เอ็มเอส เวสเตอร์ดัม” ของบริษัทฮอลแลนด์อเมริกาไลน์ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือมากกว่า 2 พันคนขอเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีว่า เราไม่อนุญาตให้จอดอยู่แล้ว แต่เราจะดูแลในเรื่องของมนุษยธรรม อย่างเช่นการเติมน้ำมัน หรือถ้าต้องการน้ำ อาหาร เราจะส่งไปให้ เราจำเป็นต้องมีมาตรการที่เหมาะสมก่อน เช่นเดียวกับต่างประเทศ ที่ดำเนินการเช่นเดียวกัน แต่ขอให้เข้าใจด้วย เพราะบนเรือมีคนจำนวนมากถึง 2 พันกว่าคน เราจึงต้องระมัดระวังการแพร่กระจายไประยะที่ 3 วันนี้เราอยู่ในระยะที่ 2 ถือว่ายังควบคุมได้

“รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะประชุมและให้ทางกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงมาตรการเตรียมการขั้นต้น ไม่ให้นำไปสู่การแพร่ระบาด ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ถ้าเราทำได้ดีครบถ้วนทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ประยุทธ์112634

ทั้งนี้ ได้กำชับให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปประชุมหารือกับผู้ประกอบการที่ผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อให้ผลิตเพิ่มมากขึ้น และต้องมีมาตรการสำรองด้วย เพราะหลายประเทศขอมาเหมือนกัน ขณะนี้หน้ากากอนามัยขาดแคลนหลายประเทศ เราจึงต้องเตรียมการให้พร้อม และอยากฝากเรียนว่า วันนี้เราให้ความรู้ทั้งการสาธารณสุข ทางการแพทย์ อาจจะใช้วิธีการทำหน้ากากอนามัยด้วยผ้า ซึ่งสามารถซักใช้ได้หลายครั้ง จะทนทานมากกว่าใช้หน้ากากชั่วคราวแบบนี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องมีให้เพียงพอ ทั้งในส่วนที่จำหน่ายตามร้านค้า ต้องไปหาตั้งแต่ต้นทางมา ผลิตได้เท่าไหร่ จะเพิ่มจำนวนเท่าไหร่ อย่าลืมว่าที่ผ่านมาโรงงานทำด้วยกลไกทางการตลาดของเขาเอง ราคาก็เป็นจำนวนหนึ่ง เราจะดูว่าทำอย่างไรให้กระจายไปทุกพื้นที่

“วันนี้ได้พูดคุยครม.หลายประเด็นด้วยกัน ทั้งมาตราการระยะสั้น มาตรการระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องการขาดแคลน และในส่วนที่ต้องร่วมมือกับต่างประเทศด้วย หลายๆ อย่างเราต้องวิเคาระห์สถานการณ์ให้ดี ถูกต้อง บทพื้นฐานกฎหมายของเรา ความปลอดภัยประชาชนของเรา เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ไตรศุลี14163

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางอธิบดีกรมเจ้าท่าได้ชี้แจงยืนยันแล้วว่า เรือลำดังกล่าวไม่ได้มีการขออนุญาตเข้ามาเทียบเรือในไทยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่มีกระแสข่าวออกมา เนื่องจากเรือเวสเตอร์ดัมเพียงแค่ติดต่อมายังเอเจนท์คนไทยที่อาศัยในไทยเท่านั้น แต่เอเจนท์คนดังกล่าวก็ยังไม่ได้มีการติดต่อมายังกรมเจ้าท่า และทางเรือเวสเตอร์ดัมก็นำข้อมูลที่ติดต่อกับเอเจนท์ไทยไปลงในเว็บไซต์ของตัวเอง ทำให้โลกโซเชียลเห็น จึงหยิบไปเป็นกระแส

Avatar photo