General

4 ผลกระทบ เด็กเยาวชน จากเหตุสะเทือนขวัญ แนะ 4 วิธี ช่วยเยียวยา

กรมสุขภาพจิต หวั่น “กราดยิงโคราช” กระทบเด็กเยาวชนที่ประสบเหตุการณ์ อาจได้รับผลกระทบทั้งทางตรงทางอ้อม 4 ด้านสำคัญ แนะ 4 วิธี  ให้ผู้ปกครอง-ผู้เกี่ยวข้อง ติดตามดูแลใกล้ชิด 

100263

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวถึง กรณีเหตุกราดยิงที่ จังหวัดนครราชสีมา ว่า หลังจากกรมสุขภาพจิตได้ส่งทีม MCATT (ทีมวิกฤติสุขภาพจิต) เพื่อเข้าดูแลจิตใจประชาชนเป็นการเร่งด่วน พบว่า มีเด็กและเยาวชนมาเข้ารับการประเมิน 4 ราย

โดยทั้ง 4 รายนี้ ได้รับการดูแลด้านจิตใจเบื้องต้น จนเข้าสู่ภาวะปกติ และสามารถกลับบ้านได้ แต่จะมีการติดตามต่อเนื่องเป็นระยะ ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตคาดว่า มีเด็กและครอบครัวอีกจำนวนมาก ที่อาจได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น และได้เดินทางกลับบ้านไปก่อนแล้ว ระหว่างความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ซึ่งกรมสุขภาพจิตกำลังติดตาม เพื่อประเมินเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ให้ได้ครอบคลุมมากที่สุด

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า กรมสุขภาพจิตขอเน้นย้ำความสำคัญ ของผู้ปกครองและครอบครัว ในการติดตามอาการของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เนื่องจากเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพจิต เพราะเด็กมักมีความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงน้อย รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่เคยมีประสบการณ์ในการรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก

กราดยิง โคราช10 e1581314662224

ทั้งหมดนี้อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเด็กได้ 4 ด้าน ได้แก่

(1) ปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ตกใจง่าย ฝันร้าย

(2) ปัญหาด้านพัฒนาการ เช่น พัฒนาการหยุดชะงัก ฉี่รดที่นอน

(3) ปัญหาด้านการเรียน เช่น สมาธิแย่ลง หนีเรียน การเรียนตก

(4) ปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว เก็บตัว เซื่องซึม เป็นต้น นอกจากนี้ ในระยะยาวอาจเกิดปัญหาด้านสุขภาพจิตตามมา เช่น โรคซึมเศร้า โรคสภาวะทางจิตเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง  ส่งผลต่อความเครียด (Post-Traumatic Stress Disorder : PTSD)  และปัญหาพฤติกรรมเลียนแบบความรุนแรง

ทั้งนี้ ผู้ปกครองและครอบครัว สามารถช่วยให้เด็กรับมือกับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงได้ 4 วิธี ดังนี้

1. ให้เด็กได้เล่า และพูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป กระตุ้นให้เด็กได้แบ่งปันความคิด และถามคำถามต่างๆ

2. ให้เด็กได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ปกครอง ครู หรือผู้ใหญ่ที่ไว้เนื้อเชื่อใจ เพื่อให้เด็กรู้สึกปลอดภัย สงบ เชื่อมต่อ และรู้สึกมีความหวัง

3. ลดการดูสื่อที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น

4. เมื่อเด็กพร้อม ควรกระตุ้นให้เด็ก มีส่วนร่วมในการจัดการผลกระทบบางอย่างที่เกิดขึ้นในสังคม เพื่อให้เด็กมีความรู้สึกว่า ตนเองสามารถควบคุมสถานการณ์ได้บ้าง เช่น เป็นอาสาสมัครในการสร้างชุมชนปลอดภัย แต่ควรงดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถานที่เกิดเหตุโดยเด็ดขาด

โดยหากพบความผิดปกติทางความคิด อารมณ์ หรือพฤติกรรมในเด็ก ควรรีบพาไปปรึกษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น หรือ โทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊กบัญชี Rattiya Peafen Says และบัญชี Boy Mongkonsawans

Avatar photo