เมื่อเร็วๆ นี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมงาน “Climate Change: Meeting the Immediate Threat” และได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “Thailand’s progress on climate change, priority and thoughts on climate negotiations” นำเสนอความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ทั้งในด้านการลดก๊าซเรือนกระจก และการปรับตัวต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงความสำเร็จจากข้อมูลล่าสุดในปี 2560 ที่ไทยสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 14% จากกรณีปกติ ในภาคพลังงานและขนส่ง ซึ่งเป็นปริมาณ 2 เท่าของเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจของไทยภายในปี 2563
นอกจากนี้ นายวราวุธ ยังได้เน้นย้ำความสำคัญของปี 2563 ว่า เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านจากการดำเนินงานก่อนปี 2563 มาเป็นการดำเนินงานภายใต้ความตกลงปารีสที่ประเทศต่าง ๆ ต้องดำเนินงานตามพันธกรณีของความตกลงปารีส รวมถึงการจัดส่งเอกสารการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นปัจจุบัน (Updated Nationally Determined Contribution: Updated NDC) และยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ (Long-term Low Emissions and Development Strategy, LT-LEDS)
ไทยยังแสดงความตั้งใจที่จะร่วมมือกับสหราชอาณาจักร และอิตาลี เพื่อทำให้การประชุม COP 26 ณ เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ สถานทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ในฐานะว่าที่ประธานการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26) และอิตาลี ในฐานะเจ้าภาพจัดประชุมเตรียมการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุม COP 26 ได้จัดงานนี้ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมยกระดับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย เพื่อขยายฐานในการดำเนินงานและส่งเสริมแนวทางที่สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แท้จริง
งานนี้เป็นกิจกรรมแรกที่จัดขึ้นตามแผนงานที่จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดปี 2563 เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุม COP 26 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมีทูตจากประเทศต่างๆ กว่า 20 คน ผู้แทนภาครัฐ องค์การระหว่างประเทศ และภาคเอกชน จำนวนประมาณ 200 คน
