นับเป็นขาใหญ่ในวงการสิ่งทอ สำหรับ “นันยางเท็กซ์ไทล์” ผู้ให้บริการด้านสิ่งทอแบบครบวงจรที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 62 ปี ตั้งแต่การปั่นเส้นด้ายไป ทอเป็นผ้าผืน จนถึงการตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งในอุตสาหกรรมสิ่งทอของโลกมีเพียง 1% ที่จะทำธุรกิจแบบครบวงจร
ปัจจุบันกลุ่มนันยางเท็กซ์ไทล์ ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในฐานะผู้นำอาเซียนด้านนวัตกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มครบวงจรซึ่งให้บริการแบบมืออาชีพ มีธุรกิจในเครือ 14 บริษัท มีพนักงานกว่า 16,000 คน
ล่าสุด นันยางเท็กซ์ไทล์ ภายใต้การบริหารงานของ วิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ พร้อมขยายอาณาจักรธุรกิจครั้งใหญ่ ด้วยการเปิด Hatch Designer Hub (แฮช ดีไซน์เนอร์ ฮับ) ขึ้น เพื่อร่วมสนับสนุนอีโคซิสเต็มธุรกิจสิ่งทอไทย โดยเฉพาะการสนับสนุนและช่วยเหลือดีไซเนอร์และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในวงการแฟชั่นเสื้อผ้า
นายวิบูลย์ ตวงสิทธิสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ เป็นผู้นำธุรกิจสิ่งทอและโซลูชั่นส์การผลิตเครื่องนุ่งห่มแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากว่า 62 ปี ด้วยนวัตกรรมผ้าผืนที่ผลิตให้กับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศหลากหลายแบรนด์ อาทิ NIKE UNIQLO OAKLEY และ MUJI มีกำลังการผลิต 58 ล้านตัวต่อปี จากโรงงานทั้งหมด 6 แห่ง ในไทย สปป.ลาว และเวียดนาม
ที่ผ่านมา บริษัทเน้นให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรมของการสวมใส่จึงได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมผ้าใหม่ๆ อยู่เสมอ และดำเนินธุรกิจแบบผลิตตามสั่ง (made-to-order) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายใหญ่เป็นหลัก แต่จากนโยบายขององค์กรที่ต้องการให้ระบบนิเวศน์ หรือ อีโคซิสเต็ม (ecosystem) ของธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่นในประเทศไทยเติบโตไปด้วยกัน
ประกอบกับเห็นถึงความสามารถของคนไทยเจเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่แพ้ต่างประเทศ และเข้ามาประกอบธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นมากขึ้น จึงเปิด Hatch Designer Hub (แฮช ดีไซน์เนอร์ ฮับ) ขึ้น
ทั้งนี้ แฮช ดีไซน์เนอร์ ฮับ จะมุ่งเจาะตลาดดีไซน์เนอร์ที่ต้องการใช้วัตถุดิบคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ต้องการเติบโตในธุรกิจเสื้อผ้าให้สามารถเข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพทัดเทียมกับแบรนด์ในต่างประเทศ
สำหรับ แฮช ดีไซน์เนอร์ ฮับ ถือเป็นอาณาจักรผ้ายืดนวัตกรรมยุคใหม่สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย และ Knitted Fabric Co-Designer Space แห่งแรกในไทย ตั้งอยู่ใจกลางซอยวัดสน แหล่งค้าส่งผ้ายืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นศูนย์รวมผ้ายืดนวัตกรรมใหม่เช่นเดียวกับที่ซัพพลายให้แบรนด์ดังๆ ในต่างประเทศ มาให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้ใช้ โดยไม่ต้องกังวลกับจำนวนขั้นต่ำในการผลิต ยังตั้งเป้าให้เป็นศูนย์บริการด้านความรู้ ตั้งแต่วัตถุดิบหรือผ้าแต่ละชนิด รูปแบบแพทเทิร์น จนถึงการตัดเย็บเพื่อจัดจำหน่าย
นอกจากนี้ แฮช ดีไซน์เนอร์ ฮับ ยังคัดสรรผ้านวัตกรรมเดียวกับที่จำหน่ายให้กับแบรนด์ดังต่างๆ และเหมาะสมสำหรับการทำตลาดในประเทศนับ 1,000 รายการมาจำหน่ายในราคาเริ่มต้นกิโลกรัมละ 160 – 460 บาท ด้วยยอดสั่งซื้อขั้นต่ำเพียง 3 กิโลกรัม ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินลงทุนไม่สูงแต่มีเสื้อผ้าหลายรูปแบบให้ลูกค้าได้เลือกสรร
หลังจากเริ่มเปิดให้บริการมา 11 เดือน พบว่า ชนิดผ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Dry-Tech (ดราย-เทค) เพราะสวมใส่สบาย ระบายอากาศดี เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย และ Syntrel (ซินเทรล) เพราะไลฟ์สไตล์ คนในปัจจุบันใส่ใจเรื่องสุขภาพ ออกกำลังกายมากขึ้นทำให้เสื้อผ้า Sportswear เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยลูกค้า 80% เป็นลูกค้าที่เคยผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายอยู่แล้ว แต่ต้องการลองผ้าชนิดใหม่ที่มีนวัตกรรม ส่วนอีก 20% เป็นผู้ที่ต้องการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของตัวเอง
ด้านแผนการตลาด จะมุ่งสร้างการรับรู้ในเชิงรุก ควบคู่ไปกับการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊คเป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญ เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง อาทิ การจัดเวิร์คช้อปให้ความรู้และได้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาผ้าผืนให้เป็นเสื้อผ้าแฟชั่น กระตุ้นให้เกิดการเข้ามาใช้พื้นที่เป็นแหล่งการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรวมถึงการร่วมกับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังและทรงอิทธิพลในกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง แฮมเบอร์เกอร์ สตูดิโอ และคิว ดีไซน์ แอนด์ เพลย์ ออกคอลเลคชั่นพิเศษที่ผลิตจากผ้าของ แฮช เป็นต้น
