ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (4 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีน เข้าแทรกแซงตลาดรอบใหม่ ช่วยผ่อนคลายความวิตกของนักลงทุน หลังจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดมาอยู่ที่ 28,843.72 จุด ทะยานขึ้นมา 443.91 จุด หรือ 1.56% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,289.28 จุด เพิ่มขึ้น 40.36 จุด หรือ 1.24% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 9,398.14 จุด พุ่งขึ้น 124.74 จุด หรือ 1.35%
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงิน 400,000 ล้านหยวน เข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ หลังเมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) เพิ่งอัดฉีดเงิน 1.2 ล้านล้านหยวน ผ่านทางข้อตกลง reverse repo
แบงก์ชาติจีน แถลงว่า มาตรการล่าสุดนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบธนาคารให้เหมาะสม และเพียงพอ ในช่วงเวลาที่ทุกฝ่ายเร่งป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
การอัดฉีดดังกล่าวช่วยหนุนความรู้สึกนักลงทุนให้ดีขึ้น แม้จะมีนักเศรษฐศาสตร์หลายคน ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ที่ยังไม่มีแนวโน้มจะชะลอตัวลง
ตลาดยังรอดูการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ต่อสภาคองเกรส ที่จะมีขึ้นในเวลาประมาณ 21.00 น. ตามเวลาในสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 9.00 น. ตามเวลาในไทยวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.)
รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะขึ้นแถลงภายใต้หัวข้อ “The Great American Comeback” หรือ การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของอเมริกัน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสำเร็จ และผลงานของรัฐบาลในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังน่าจะพูดเกี่ยวกับเรื่องการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ การทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน รวมทั้งข้อตกลงการค้า USMCA กับเม็กซิโกและแคนาดา พร้อมกับกล่าวถึงสิ่งที่เขาจะดำเนินการต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของการดำรงตำแหน่งของเขาในปีนี้ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้
