หัวเว่ย ก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดได้เป็นครั้งแรก โดยเป็นแบรนด์จีน 1 ใน 3 แบรนด์ที่ได้รับการจัดอันดับติดโผ 10 อันดับแรก ด้วยมูลค่าแบรนด์ 6.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
รายงาน Brand Finance Global 500 ฉบับประจำปี 2563 ที่จัดทำโดย Brand Finance บริษัทด้านการประเมินค่าและที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ระดับชั้นนำ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร ได้เผยผลการจัดอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดจากทั่วโลก ปี 2563 ระบุว่า หัวเว่ยเป็นแบรนด์จีน 1 ใน 3 แบรนด์ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดใน 10 อันดับแรก
ทั้งนี้ หัวเว่ยมีมูลค่าแบรนด์อยู่ที่ 6.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้า 4.5% โดยมูลค่าแบรนด์ของหัวเว่ยเติบโตขึ้นจากความมุ่งมั่นของหัวเว่ยที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ และสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับผู้บริโภค
รายงานดังกล่าว ระบุถึงแบรนด์หัวเว่ยว่า “หัวเว่ย กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดโทรคมนาคม ที่แต่เดิมมีเพียงแบรนด์จากชาติตะวันตกเป็นผู้นำ ในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการสื่อสารแบบ 5G นับเป็นช่วงเวลาที่เป็นทั้งโอกาสครั้งสำคัญ และยังเป็นช่วงเวลาที่มีการแข่งขันในระดับสูงมาก ซึ่งหัวเว่ยกำลังจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด แม้ว่าหัวเว่ยจะเผชิญกับข้อวิพากษ์วิจารณ์มากมาย”
สำหรับรายงาน Brand Finance Global 500 นี้ จำนวน 205 แบรนด์ ที่ติดอันดับ 500 แบรนด์เป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา โดยมูลค่าแบรนด์ของทั้ง 205 แบรนด์รวมกันสูงถึงกว่า 3.20 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และแบรนด์จากสาธารณรัฐประชาชนจีนตามมาเป็นอันดับที่ 2 จำนวน 70 แบรนด์ มีมูลค่าแบรนด์รวมกันที่ 1.33 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยียังคงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ารวมของแบรนด์สูงที่สุด โดยมี 46 แบรนด์ ที่ติดอันดับในการประเมินครั้งนี้ เป็นแบรนด์ด้านเทคโนโลยี โดยมูลค่าแบรนด์ของทั้ง 46 แบรนด์นี้สูงถึง 9.86 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และหัวเว่ยเป็นแบรนด์ด้านเทคโนโลยีจากจีนเพียงแบรนด์เดียวที่ติด 1 ใน 10 อันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด
เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา หัวเว่ยคาดว่า จะสามารถส่งมอบสมาร์ทโฟนได้ 240 ล้านเครื่อง และจะสามารถรักษาตำแหน่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกไว้ได้ ซึ่งเมื่อปี 2561 หัวเว่ยได้ส่งมอบสมาร์ทโฟนกลุ่มเรือธง ทั้ง HUAWEI Mate Series และ HUAWEI P Series ไปกว่า 44 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงกว่าปี 2560 ถึง 50%
นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนที่รองรับเครือข่าย 5G ของหัวเว่ย ยังมียอดจำหน่ายแล้วกว่า 6.9 ล้านเครื่อง ณ เดือนธันวาคม 2562 อีกทั้งหัวเว่ยยังได้พัฒนานวัตกรรม เพื่อการใช้ชีวิตแบบอัจฉริยะแบบไฮลิงค์ มากมาย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ, และอุปกรณ์ไอโอที ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีการเติบโตในระดับที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง
